• ลิเวอร์พูล คืนฟอร์ม เฉือน บอร์นมัธ ขออีก 9 แต้มสัมผัสแชมป์ พรีเมียร์ ลีก

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คู่แรก ประจำวันที่ 7 มี.ค. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูง เล่นในแอนฟิลด์ รับ บอร์นมัธ ทีมอันดับ 16

เกมนี้ หงส์แดง ไม่มี อลิสสัน เบ็กเกอร์ นายทวารมือ 1 ที่ได้รับบาดเจ็บ และใช้บริการ อาเดรียน เฝ้าเสา และไม่มีแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน โดย จ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก ออกอาการเป๋แพ้มา 3 จาก 4 เกมหลังสุด

นาทีที่ 8 จังหวะที่โจ โกเมซ กำลังตามเก็บบอลแต่ คัลลัม วิลสัน ไปแย่งบอลจาก โจ โกเมซ หน้ากรอบเขตโทษ ลิเวอร์พูล จากนั้นถ่ายบอลไปถึง เจฟเฟอร์สัน เลมา ถึงเส้นหลังผ่านถวายพานให้ วิลสัน ยิงเผาขนให้ บอร์นมัธ บุกมาพลิกนำก่อน 1-0

นาที 16 ลิเวอร์พูล สวนกลับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตักบอลข้ามแนวรับ บอร์นมัธ ให้ โรแบร์โต ฟิร์มิโน่ ได้ยิงติดจ่อๆ ก็ยังไม่ผ่าน อารอน แรมสเดล ปัดออกไปได้

นาที 25 แจ็ก ซิมป์สัน ที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนสตีฟ คุกได้ไม่กี่นาที โดนซาดิโอ มาเน่ ฉกบอลในแดนตัวเอง ก่อนที่ มาเน่ จะไหลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ย้อนหลังแต่ กองหน้าทีมชาติอียิปต์ แก้สถานการณ์ได้หาช่องสับไกยิงยัดเข้าเสาแรก ตีเสมอ 1-1 เป็นประตูที่ 20 ในทุกถ้วย และทำให้ ซาลาห์ ทำสถิติยิงอย่างน้อย 20 ประตู 3 ฤดูกาลติดต่อกัน (2017/2018 ยิง 44 ประตู, 2018/2019 ยิง 27 ประตู) นับตั้งแต่ ไมเคิล โอเว่น เคยทำได้เมื่อปี 2003 และยังเป็นประตูที่ 70 ในการลงเตะให้ลิเวอร์พูล 100 นัด

นาที 33 เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังหงส์แดงตัดบอลจาก บอร์นมัธ ได้จากกลางสาม ก่อนจะจ่ายทีเดียวทะลุทั้งแผงให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปเอียงตัวยิง ผ่าน แรมสเดล ขึ้นนำ 2-1 และเป็นประตูที่ 18 ของมาเน่ ในทุกถ้วย

จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูลเอาชนะไป 2-1 เก็บ 3 คะแนน มีเพิ่มเป็น 82 แต้ม จาก 29 นัด นำ แมนฯซิตี้ อยู่ 25 แต้ม แต่แข่งมากกว่า เรือใบสีฟ้า 2 นัด

ลิเวอร์พูลต้องการชัยชนะอีก 3 นัด หรือต้องการอีก 9 แต้มจาก 9 นัดที่เหลือ หรือ 91 แต้ม ก็จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ในฤดูกาลนี้ทันที เนื่องจาก แมนฯซิตี้ ที่ลงเตะไปแล้ว 27 นัด มี 57 คะแนน เหลือเกมอีก 11 นัด จะทำแต้มได้อีกมากที่สุด 33 คะแนนรวมเพียง 90 คะแนนเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน