เจ้าสด ซิวตั๋วโอลิมปิกใบสุดท้าย – กกท. จัดมวกเหล็ก กักตัวนักมวย หลังกลับไทย

 

การแข่งขันมวยสากลโอลิมปิกเกมส์รอบคัดเลือกโซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อวันที่ 11 มี.ค.เป็นการชิงโควตาสุดท้ายในรุ่น 57 กก.ชาย “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่พลาดแพ้ในรอบ 8 คนสุดท้าย กลับมาลงรอบเพลย์ออฟ พบ แฮม แซงยอง จากเกาหลีใต้

 

ตลอดการชกทั้ง 3 ยก เจ้าสด ออกหมัดหนึ่งสองได้อย่างจะแจ้ง โดยเฉพาะหมัดหลังเข้าลำตัวจังๆ หลายหมัด แถมในยกที่ 2 ยังได้นับ 8 ครบยก ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี เป็นฝ่ายชนะคะแนนขาดลอย 5-0 เสียง คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ได้เป็นคนที่ 4 ของทีมหมัดไทย และเป็นโอลิมปิกเกมส์หนที่ 3

 

หลังการชก “เจ้าสด” กล่าวว่า ดีใจที่สุดที่ปลดล็อกได้แล้ว ยอมรับว่าก่อนชกกดันมากเพราะเป็นโอกาสสุดท้ายจะแพ้ไม่ได้ต้องชนะอย่างเดียวเท่านั้น แลพยายามรวบรวมสมาธิและชกให้เป็นไปตามที่โค้ชวางแผนไว้ ส่วนเป้าหมายต่อไปต้องคว้าเหรียญในโอลิมปิกเกมส์ให้ได้เพราะเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของตนแล้ว

 

ต่อที่ รุ่น 51 กก.หญิง “เจ้าเฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงษ์ พบกับ ราฮิโมว่า ทูร์ซูนอย จากอุซเบกิสถาน ตลอดการชกทั้ง 3 เจ้าเฟี้ยว พยายามเดินลุยอย่างหนัก แต่ยังต่อยไม่เข้าเป้า โดยนักชกอุซเบฯ สวนกลับจังๆ หลายหมัด ครบยก จุฑามาศ จิตรพงษ์ พ่ายคะแนนขาดลอย 1-4 เสียง ชวดโควตาไปโอลิมปิกเกมส์

 

ขณะที่ “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานเทคนิค กล่าวว่า ดีใจกับนักมวยทั้ง 4 คนที่คว้าตั๋วไปโตเกียวได้สำเร็จ โดยเฉพาะ เจ้าสด ที่ต้องมาลุ้นในนาทีสุดท้าย

 

ภาพรวมถือว่าน่าพอใจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ก่อนมา ยอมรับว่ายังเสียดายบางคนที่พลาดในเลกนี้ทั้งที่น่าจะได้ แต่ไม่เป็นไรเรายังมีโอกาสให้แก้ตัวใหม่ในเลกหน้า ซึ่งคนที่ผิดพลาดในเลกนี้คงต้องเร่งกลับไปแก้ไขจุดบกพร่องเพื่อเตรียมไว้ในการคัดเลกหน้า ที่เราหวังไว้ 1-2 คน

 

ส่วน กกท. เตรียมศูนย์ฝึกมวกเหล็กเก็บตัวคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่มวยสากลชุดคัดเลือกโอลิมปิก 2020 ตามมาตรการดูแลเฝ้าระวัง โควิด-19

 

ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เป็นประธานในการประชุมหารือเกี่ยวกับมาตรการดูแลและเฝ้าระวัง โควิด-19 ของคณะนักกีฬามวยสากลทีมชาติไทยและเจ้าหน้าที่สมาคมฯ ชุดเข้าร่วมแข่งขันคัดเลือกเป็นตัวแทนทวีปเอเชีย ครั้งที่ 1 เพื่อรับสิทธิ์เข้าแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีกำหนดจะเดินทางจากประเทศจอร์แดนกลับมายังประเทศไทย ในวันที่ 12 และ 13 มีนาคม 2563 นี้

 

 

โดยมี พล.ต.ท. ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย, นายธัชนาถ ทองประกอบ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ, นายเจริญศรี สุวรรณศรี ผู้อำนวยการกองบริหารงานกีฬาภูมิภาค, นายสุวิทย์ เกิดบำรุง ผู้อำนวยการกองกีฬาเวชศาสตร์ ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 11 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา

 

 

ที่ประชุมให้ความเห็นชอบจัดมาตรการดูแลและเฝ้าระวังโควิด-19 ในคณะนักกีฬามวยสากลทีมชาติไทยและเจ้าหน้าที่สมาคมฯ ชุดเข้าร่วมแข่งขันคัดเลือกเป็นตัวแทนทวีปเอเชีย ครั้งที่ 1 เพื่อรับสิทธิ์เข้าแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020

 

โดยจัดเตรียมทีมเจ้าหน้าที่จากฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา และฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ของ กกท. ให้ความดูแล เริ่มจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจต่างๆแล้ว จะรับคณะเดินทางไปยังศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ซึ่งได้เตรียมที่พักสำหรับการเก็บตัวไว้ที่อาคาร 2 ภายในศูนย์ฝึกกีฬามวกเหล็ก จำนวน 14 วัน ตามมาตรการเฝ้าระวัง และมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำวิธีการป้องกันตัวจาก โควิด-19

 

 

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า คณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ชุดมวยสากลนี้ เดินทางกลับมาจากประเทศจอร์แดน ซึ่งไม่ใช่ประเทศในกลุ่มเสี่ยง และยังสามารถคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง

 

อย่างไรก็ตามเราก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการดูแลและเฝ้าระวังจากโควิด-19 อย่างเคร่งครัด กกท. ได้ประสานงานกับจังหวัดสระบุรี รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเรื่องดังกล่าวเพื่อทราบและร่วมมาตรการดูแลเฝ้าระวังร่วมกัน นักกีฬาจะพักภายในอาคารเดียวกัน แต่แยกห้องของแต่ละคน และนักกีฬาสามารถฝึกซ้อมตามตารางฝึกซ้อมได้ โดยจะจัดพื้นที่ซ้อมแยก ไม่มีการชกกัน เป็นการฝึกซ้อมด้วยตัวเอง โดยสมาคมมวยฯ และฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา ของ กกท. ช่วยกันจัดโปรแกรมการฝึกซ้อมของนักมวย ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายในด้านความเร็ว ความอดทน และการเคลื่อนไหว โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการฝึกร่วมกับบุคคลอื่น

 

ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อคงสภาพร่างกายของนักกีฬาในการที่จะเตรียมเข้าสู่แผนการฝึกที่มีความเฉพาะเจาะจงต่อไป หลังจากที่เฝ้าดูอาการระยะเวลา 14 วันแล้ว รวมถึงการป้องกันไม่ให้นักกีฬาสัมผัสใกล้ชิดหรือเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น ซึ่งจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิ และการดูแลตลอด 14 วัน โดยระหว่างการเก็บตัว กกท. ยังคงให้การสนับสนุนค่าที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยง ให้กับนักกีฬา ตามโครงการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ อีกด้วย

 

 

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เน้นย้ำและกำชับมาว่า ขอให้ กกท. ดูแลนักกีฬาทีมชาติไทยที่เดินทางไปแข่งขันกีฬาในต่างประเทศเป็นอย่างดี หากเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้วก็ขอให้ช่วยดูแลและเฝ้าระวังตามมาตรการป้องกันดูแลฯ คือเก็บตัวในระยะเวลา 14 วัน โดยให้จัดทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องที่พักและอาหาร ให้เรียบร้อย ถือเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่สำคัญที่ต้องการดูแลนักกีฬาทีมชาติไทยในฐานะที่เป็นตัวแทนคนไทยไปรับใช้ชาติในด้านกีฬา”

ทั้งนี้ นักกีฬามวยสากลทีมชาติไทยชุดคัดเลือกโอลิมปิก 2020 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ที่ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน ระหว่างวันที่ 3 – 11 มีนาคม 2563 จะเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 12 มีนาคม 2563 รอบแรก เป็นนักกีฬาทีมหญิงและเจ้าหน้าที่ และรอบที่ 2 ในวันที่ 13 มีนาคม 2563 เป็นนักกีฬาทีมชายและเจ้าหน้าที่

โดยมีรายชื่อนักกีฬา ประกอบด้วย นักกีฬาชาย 6 รุ่น ได้แก่ รุ่น 52 กก. ฐิติสรรค์ ปั้นโหมด, รุ่น 57 กก. ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี, รุ่น 63 กก. อธิชัย เพิ่มทรัพย์, รุ่น 69 กก. วุฒิชัย มาสุข, รุ่น 75 กก. วีระพล จงจอหอ และรุ่น 81 กก. จักรพงษ์ ยมโคตร,

 

นักกีฬามวยสากลหญิง 5 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น 51 กก. หญิง จุฑามาศ จิตรพงษ์, รุ่น 57 กก. หญิง นิลาวัลย์ เตชะสืบ, รุ่น 60 กก. หญิง สุดาพร สีสอนดี, รุ่น 69. กก.หญิง ใบสน มณีก้อน และรุ่น 75 กก. หญิง พรนิภา ชูศรี

 

ผลการแข่งขันฯ นักมวยสากลทีมชาติไทยสามารถคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 2563 ได้จำนวน 3 คน ประกอบด้วย รุ่น 52 กก. ฐิติสรรค์ ปั้นโหมด สุดาพร สีสอนดี รุ่น 60 กก. หญิง, ใบสน มณีก้อน จากรุ่น 69 กิโลกรัม หญิง และ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี รุ่น 57 กก.

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน