หลังจากที่ทีมวอลเลย์บอลสาวไทยพ่ายทีมญี่ปุ่นไปอย่างน่ากังขา 2-3 เซ็ตในการแข่งขันวอลเลย์บอลโอลิมปิก 2016 รอบคัดเลือก เพราะเซตที่ 5 หลุยส์ เกราโด้ มาเซียส ผู้ตัดสินชาวเม็กซิโก ได้แจกใบแดงให้กับ “โค้ชอ๊อต”เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมไทย ถึง 2 ครั้งแบบหน้ากังขา
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. อ.ชาญฤทธิ์ วงศ์ประเสริฐ ประธานอำนวยการ สมาคมกีฬาวอลเลย์บอล และ คณะกรรมการบริหารเอฟไอวีบี เผยว่า สำหรับ หลุยส์ เกราโด้ มาเซียส ได้มีชื่อไปตัดสินในโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิลด้วย แต่ถ้าเราร้องเรียนไป และถ้าทางเอฟไอวีบีตัดสินว่าผิดจริง ผู้ตัดสินชาวจังโก้ก็อาจจะถูกลงโทษไม่ให้ลงทำหน้าที่ในโอลิมปิกครั้งนี้ ส่วนเรื่องผลของการแข่งขันที่ออกมา ก็คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ขณะเดียวกันก็เตือนโค้ชอ๊อตให้ระวังตัวมากขึ้น เพื่อไม่เป็นการเปิดช่องให้ผู้ตัดสินเล่นงานเราได้
“จริงๆ ผู้ตัดสินก็ทำถูกต้องตามกติกาทุกอย่าง เพียงแต่ว่าเขาขาดวิจารณญาณในการตัดสิน โดยเฉพาะช่วงท้ายเซต 5 ซึ่งจริงๆ แล้วต้องทำให้ดีกว่านี้ เพราะแต้มดังกล่าวจะมีผลต่อการแข่งขัน ส่วนปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือตัวอุปกรณ์ที่ใช้ ถ้าเวลานั้นพอกดแล้วไม่มีสัญญาณ ผู้ตัดสินก็ควรที่จะเข้าไปเช็กดูก่อน หรือไม่ก็กลับมาใช้สัญญาณมือแทนก็ได้”อ.ชาญฤทธิ์กล่าว
สำหรับโอกาสของไทยในการไปโอลิมปิก 2016 นั้น อ.ชาญฤทธิ์กล่าวว่า เรายังอยู่ในเส้นทางโดยอีก 3 เกมที่เหลือที่จะพบกับ คาซัคสถาน เกาหลีใต้ และ เปรู ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ทั้งหมด ผิดกับญี่ปุ่น หลังจากนี้เขาจะพบกับเกมที่หนัก ไม่ว่าจะเป็น โดมินิกัน, อิตาลี และ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งโอกาสแพ้ 3 นัดรวดก็มีเช่นกัน ส่วนเราถ้าพลิกชนะเกาหลีใต้ขึ้นมา ก็ยังมีโอกาสเข้ารอบได้เช่นกันถึงแม้จะเป็นงานยากก็ตาม
ส่วนนายพิสิษฐ์ นัทธี ผู้จัดการทีมชาติไทย ได้เตรียมทำจดหมายถึงสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ เอฟไอวีบี เพื่ออุทธรณ์การตัดสินในเกมนัดดังกล่าว โดยเฉพาะการให้ใบแดงในช่วงตัดสินชี้เป็นชี้ตายของการแข่งขัน ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งตอนนั้นเพียงแค่ต้องการสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า แทปเล็ตควบคุมการกดสัญญาน “Challenge” และ “Change” เพื่อเปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่ทำงาน ซึ่งส่งผลทำให้ไทยเสียโอกาส และอยากให้มีการไต่สวนคดีดังกล่าวขึ้น
“ผมได้ศึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเราผิดอะไรยังไง ปรากฎว่าเท่าที่ดูกฎระเบียบข้อบังคับในเรื่องการใช้แทปเล็ตแล้ว เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย กฎข้อนึงบอกว่าหากแทปเลตไม่ทำงานหรือไม่เสถียรในการใช้ สต๊าฟโค้ชสามารถใช้ยกป้ายได้ตามปกติ และผู้ตัดสินก็ไม่มีสิทธิ์ลงโทษเราในเรื่องความพยายามดึงเกมช้า เพราะงั้นไม่มีอะไรที่แสดงว่าเราทำผิดกฎ จนผู้ตัดสินมาให้ใบแดงในช่วงสำคัญของเกมถึงสองใบแบบนี้ ดังนั้นผมได้ติดต่อกับ รท.จักรสุวรรณ โตเจริญ เลขาธิการของสมาคมถึงเรื่องนี้แล้ว ซึ่งก็ให้ดำเนินการอุทรณ์ได้เลย เพื่อตรวจสอบจริยธรรมของผู้ตัดสินชาวเม็กซิโก ส่วนบทลงโทษผู้ตัดสินก็คงต้องอยู่ในดุลยพินิจของเอฟไอวีบีต่อไป”
ด้าน“โค้ชยะ” ณัฐพนธ์ ศรีสมุทนนาค ผู้ช่วยหน.ผู้ฝึกสอน เผยว่า ที่มีหนังสืออุทธรณ์นี้ไม่ได้คาดหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขัน แต่เพื่อเป็นสัญญานเตือนว่าระบบมันไม่เวิร์ก เพราะรายการสำคัญแบบนี้ มันทำให้หลายๆ ทีมเสียโอกาส และจะได้มีการตรวจสอบผู้ตัดสินว่าได้ทำหน้าที่ถูกต้องตามกฎระเบียบของเอฟไอ วีบีหรือไม่
