กกท. พร้อมส่งจนท.ดูแลนักกีฬาหากร้องขอ-รับโควตา โอลิมปิก ส่อไม่ถึง45ตามเป้า

 

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังลุกลามไปทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อวงการกีฬา ว่า ตอนนี้การกีฬาแห่งประเทศไทยมีมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด และพยายามเตือนให้นักกีฬาทุกคนระมัดระวังตัวเอง

 

โดยเฉพาะกลุ่มนักกีฬาที่ต้องเดินทางไปแข่งขันหรือเก็บตัวในต่างประเทศ อย่างล่าสุดทัพนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ก็ไปแข่งขันคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2020 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อวันที่ 3-11 มี.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ได้ถึง 4 คน แม้จะไม่ใช่ประเทศในกลุ่มเสี่ยง แต่ก็ต้องระวังไว้ก่อน เราจึงจัดศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก สระบุรี ไว้รับรอง ซึ่งเราได้ทำความสะอาด และแยกนักกีฬากลุ่มนี้ ออกจากนักกีฬาที่อาศัยอยู่ก่อนแล้ว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้น

 

“เท่าที่ทราบตอนนี้มีอีกหลายชนิดกีฬาที่เดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ หรือเก็บตัวในต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่นแบดมินตัน ที่มีนักกีฬาไปแข่งขันรายการ ออลอิงแลนด์ ที่ประเทศอังกฤษ หากกลับมาแล้วนักกีฬาอยากจะให้การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดเตรียมสถานที่กักตัว หรือเจ้าหน้าที่ให้ความดูแลเราก็ยินดี อย่างไรก็ตามเราไม่ได้บังคับ แล้วแต่ความสมัครใจของแต่ละคน หากคนไหนสะดวกเก็บตัวที่บ้านก็ไม่เป็นไร ขอแค่รายงานสถานการณ์ให้เราทราบ เผื่อมีอะไรที่เราพอจะยื่นมือเข้าไปช่วยได้เราก็พร้อม” ดร.ก้องศักด กล่าว

 

ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยอีกว่า ขณะนี้นักกีฬาไทยคว้าโควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 “โตเกียวเกมส์” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24 ก.ค.-9 ส.ค.2563 แล้ว 17 โควตา ซึ่งก่อนหน้านี้เราตั้งเป้าไว้ที่ 45 โควตา จากนี้ยังมีอีกหลายกีฬาที่เราได้ลุ้นเพิ่มไม่ว่าจะเป็น แบดมินตัน, เทควันโด, จักรยาน, เทเบิลเทนนิส, ว่ายน้ำ และกรีฑา อย่างไรก็ตามตอนนี้คงยังสรุปตัวเลขแน่นอนไม่ได้ แต่ก็ยอมรับว่าโอกาสจะเก็บได้ตามเป้า 45 โควตาคงน้อยลง เพราะสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายทัวร์นาเมนต์ต้องยกเลิก หรือเลื่อนไปก่อน ประกอบกับเราพลาดชนิดกีฬาประเภททีมไปหลายชนิด แต่หากสุดท้ายเราเก็บได้ถึง 45 โควตาตามเป้า ก็ถือเป็นความสำเร็จที่น่าภูมิใจของนักกีฬาไทย

 

สำหรับนักกีฬาทีมชาติไทย ที่ผ่านการคัดเลือก เข้าไปชิงชัยในรอบสุดท้าย มหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ระหว่างวันที่ 24 ก.ค.-9 ส.ค.2563 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ แล้ว ในเวลานี้ 17 คน ประกอบด้วย

 

“แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ (ยิงเป้าบิน/แทร็ปชาย), “แบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม (เรือใบ/เลเซอร์ เรเดียลหญิง), “ดาว” ศิริพร แก้วดวงงาม (วินด์เซิร์ฟ/อาร์เอสเอ็กซ์หญิง), “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์ (จักรยาน/ถนนหญิง), “กัปตัน” อิศรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร (ยิงปืน/ปืนสั้นยิงเร็ว 25 ม.ชาย), ”เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ (ยิงปืน/ปืนสั้นสตรี 25 ม.), “ธันย่า” ธันยพร พฤกษากร (ยิงปืน/ปืนสั้นสตรี 25 ม.), “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (ยิงเป้าบิน/สกีต),

 

“วอร์ม” อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข (ยิงเป้าบิน/สกีต), ขี่ม้าอีเวนท์ติ้ง (“มิ้น” อาริย์ณัฏฐา ชวตานนท์ , “นัท” กรธวัช สำราญ และ “บอมบ์” วีรภัฎ ปิฏกานนท์), “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด/ รุ่น 49 กก.หญิง), ใบสน มณีก้อน (มวยสากล/ รุ่น 69 กก.หญิง), “เหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด (มวยสากล/ รุ่น 52 กก.ชาย), “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี (มวยสากล/ รุ่น 60 กก.หญิง) และ “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี (มวยสากล/ รุ่น 57 กก.ชาย)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน