โค้ชโอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือใหญ่บีจี ปทุม ยูไนเต็ด น้องใหม่ไทยลีก 2020 พอใจกระต่ายแก้วสตาร์ตเยี่ยมโดยเฉพาะเกมรับที่เหนียวหนึบ แต่ยังต้องปรับเรื่องจบสกอร์
โค้ชโอ่ง – หลังจากที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้เลื่อนการแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศทั้งหมด ออกไป 45 วัน โดยจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในวันที่ 18 เม.ย. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจากการแข่งขันโตโยต้า ไทยลีก 2020 4 นัดที่ผ่านมา ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เก็บชัยชนะรวด มี 12 แต้ม ตามด้วย “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี กับ “เดอะแรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่หน้าเก่า ที่มี 10 แต้ม
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ความเคลื่อนไหวของ “กระต่ายแก้ว”บีจี ปทุม ยูไนเต็ด น้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุด นั้น ดุสิต เฉลิมแสน หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ปล่อยพักไปช่วงเวลาสั้นๆ และกลับมาซ้อมอีกครั้งแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ช่วงกลางเดือนมีนาคม จะเปลี่ยนบรรยากาศไปซ้อมที่ขอนแก่น ราว 7-10 วัน ติวเข้มก่อนเปิดแข่งขันใหม่อีกครั้ง ผลงานที่ผ่านมา 4 นัด พอใจกับการเก็บได้ 10 แต้ม โดยเฉพาะในเกมรับที่เพิ่งเสียไปลูกเดียว ในนัดแรกที่ชนะ เอสซีจีเมืองทอง ยูไนเต็ด 2-1 ซึ่งเป็นการเสียจากจุดโทษ นอกนั้นไม่เสียประตูเลยหมด ต้องชมแนวรับ รวมทั้งผู้รักษาประตู “บอยไฉัตรชัย บุตรพรม ที่ทำผลงานได้อย่างดี
“มันยังมีจุดปรับปรุง เกมรับนี่ถือว่าพอใจ นอกจากเสียประตูจากจุดโทษ ทุกนัดที่เหลือคลีนชีตหมด แต่เราต้องมาปรับความเฉียบคมในเกมรุกให้มากขึ้น ยิงได้เยอะขึ้น”
กุนซือใหญ่กระต่ายแก้ว กล่าวถึงสภาพผู้เล่นว่า นักเตะที่มีอาการบาดเจ็บอยู่อย่าง “เก่ง”สุรชาติ สารีพิมพ์ กองหน้าตัวหลักหายกลับมาได้แล้ว ขณะที่ “นิว” ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางคนสำคัญไปรักษาอาการบาดเจ็บที่เข่า ซึ่งเป็นอาการเก่ายังไม่หาย 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งพอลีกพัก 45 วัน จึงเป็นโอกาสดีที่ไปรักษาให้สมบูรณ์ ตอนนี้เริ่มดีขึ้น และน่าจะกลับมาฟิตพร้อมในช่วงแข่งขันพอดี
ส่วนเรื่องโอกาสการลุ้นแชมป์นั้น อดีตแบ๊กซ้ายดาราเอเชีย กล่าวว่า ปีนี้ไม่ได้วางเป้าไว้ชัดเจนว่าจะต้องติดท็อป 3 หรือท็อป 4 แต่พยายามทำให้แข็งแกร่ง ไม่พลาดเหมือนปีตกชั้น อย่างไรก็ตามถ้าหากจบอันดับสูงได้นับเป็นเรื่องที่ดี
