สมาคมบอล นำโดย บิ๊กอ๊อด เตรียมแผนงานอย่างน้อย 6 ช่องทางในการเดินหน้าแข่งฟุตบอลอาชีพ รอทุกสโมสรลงมติหาทางออกร่วมกัน ใช้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเป็นที่นัดหมาย
สมาคมบอล – ตามที่การแข่งขันฟุตบอลอาชีพไทย ตั้งแต่ ไทยลีก 1-4 ได้เลื่อนแข่งขันยาวนับตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งรัฐบาล ออก พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-30 เม.ย. โดย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ บริษัท ไทยลีก จำกัด กำหนดจะกลับมาแข่งอีกครั้ง วันที่ 2-3 พ.ค.
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
อย่างไรก็ตาม จากการแพร่ระบาดไวรัส ที่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งระยะเวลาการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน จึงยากที่จะเตะตามกำหนดเดิม ทั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แถลงการณ์ว่า นัดสโมสรในไทยลีก 1-2 ร่วมหารือในวันที่ 14 เม.ย. ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับโปรแกรม โดยมีทางเลือก 6 รูปแบบ
ผู้สื่อข่าวสอบถามรายละเอียด “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.ไทยลีก ได้รับคำตอบว่า จากที่หารือกันเบื้องต้น มีทางเลือกต่างๆ เสนอเข้ามา ช่วงเวลาที่กำหนดไว้ นั้น กำหนดการแรก ที่วางไว้แต่เดิมคือวันที่ 2-3 พ.ค. จบวันที่ 21 พ.ย. ที่จะทำให้แข่งได้ทุกรายการตามปกตินั้น ข้อนี้ต้องยอมรับว่าไม่สามารถทำได้แล้ว
บิ๊กอ๊อด กล่าวอีกว่า กำหนดเวลาต่อมา เริ่มวันที่ 30 พ.ค.-21 พ.ย. และเริ่มวันที่ 2 มิ.ย.-13 ธ.ค. ในช่วงเวลานี้ มีทางเลือกย่อยลงไป ทั้งจัดบอลถ้วยครบทุกรายการ, ตัดรายการใดรายการหนึ่ง, ไทยลีกต่อเนื่องทับซ้อน-ไม่ทับซ้อน กับการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ส่วนอีกแผนจะเริ่มวันที่ 1 ก.ค. – 20 ธ.ค. จำเป็นต้องตัดฟุตบอลถ้วยรายการใดรายการหนึ่งออกไป เนื่องจากโปรแกรมลีกทับซ้อนกับซูซูกิคัพ
ประมุขบอลไทย กล่าวต่อไปว่า กำหนดการสุดท้ายคือ เริ่มวันที่ 1 ส.ค. – 20 ธ.ค. จะจัดได้เฉพาะบอลลีก ต้องยกเลิกบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ และคิวเตะบอลลีกทับซ้อนกับ ซูซูกิคัพ โดยไทยลีกเปิดช่องทั้งเหลือเลกเดียว หรือเตะครบ 2 เลก แต่ต้องมีแมตช์กลางสัปดาห์ตลอด
นายกบอลไทย กล่าวด้วยว่า ทั้งหมดเป็นทางเลือก ที่จะนำเสนอสโมสรในการประชุม ยังไม่ตายตัว อาจจะมีข้อเสนอเพิ่ม หรือปรับเปลี่ยนได้ เดิมทีตนจะนำเรื่องการเลื่อนไทยลีก ไปเตะวันที่ 1 ส.ค. เข้าสู่การประชุมสภากรรมการ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. อย่างไรก็ตาม คิดว่าหากตัดสินใจแล้ว ควรได้ข้อสรุปในทุกๆ อย่าง จึงสมควรให้สโมสรไทยลีก ร่วมหารือ เพื่อตกผลึกเป็นความคิดเดียวกัน เป็นความยินยอมพร้อมใจ จึงนัดประชุมดังกล่าว
