พรีเมียร์ลีก เตรียมลงทุนเป็นเงิน 4 ล้านปอนด์ หรือราว 160 ล้านบาท เพื่อจัดหาชุดทดสอบโคโรน่าไวรัส จำนวน 26,000 ชุด เพื่อใช้สำหรับตรวจความพร้อมของนักฟุตบอลระหว่างการจัดให้มีการแข่งขันนัดที่เหลือของฤดูกาลนี้โดยเฉพาะ ขณะที่มีความกังวลในกลุ่มแพทย์ว่า การจับนักฟุตบอลมาตรวจ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้พร้อมต่อการแข่งขันกีฬานั้นดูหมิ่นเหม่ด้านจริยธรรม

รายงานข่าวครั้งนี้ เผยออกมาจากที่ประชุมสมาชิก 20 สโมสรในลีกสูงสุดของอังกฤษ โดยเป็นการพูดคุยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในหัวข้อ มาตราการยืนยันความปลอดภัยต่อนักฟุตบอลทุกคน ที่ต้องลงสนามนั้น ทางลีกได้ร่างข้อบังคับให้นักกีฬาทุกคนต้องตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งต่อสัปดาห์เลยทีเดียว

ด้านชุดทดสอบไวรัส มีราคาอยู่ที่ 150 ปอนด์ต่อชุด (ประมาณ 6 พันบาท) คาดว่าจะถูกใช้กับนักฟุตบอล รวมถึงสตาฟฟ์ ทีมงานผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในทีม รวมแล้วแต่ละทีมจะต้องมีการตรวจเชื้อประมาณ 100 ชุดต่อสัปดาห์ ตีเป็นค่าใช้จ่ายทั้ง 20 ทีม ราว 3 แสนปอนด์

ด้วยความหวังของทีมที่จะกลับมารวมตัวฝึกซ้อมอีกครั้งในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมและฤดูกาลที่จะเสร็จสิ้นได้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม รวมระยะเวลา 13 สัปดาห์ ประเมินเป็นค่าใช้จ่ายของการจัดหาชุดทดสอบคือ 4 ล้านปอนด์

เดลี่เมล์รายงานเพิ่มเติมว่า ทางลีกพยายามสร้างความมั่นใจให้สังคม และคนในแวดวงกีฬา จึงวางแผนการดังกล่าว อย่างไรก็ดี มีข้อน่าเป็นห่วงเสนอขึ้นมาจากตัวแทนฝ่ายการแพทย์ ระบุการบังคับตรวจจำนวน 2 ครั้งในหนึ่งอาทิตย์ อาจสร้างความเครียดให้กับตัวนักฟุตบอล และอาจเป็นการละเมิดสิทธิเกินไป

ขณะเดียวกัน กระแสในอินเตอร์เน็ตอังกฤษ ก็เริ่มโจมตีว่า ควรสงวนชุดตรวจเชื้อไว้ใช้กับทีมแพทย์โรงพยาบาลที่จำเป็นมากกว่าการนำมาใช้ในวงการกีฬา ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ไม่น่าจะมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการดำรงชีวิตในภาวะวิกฤตโรคระบาดเช่นนี้

ด้านความคืบหน้าอื่นๆ มีรายงานว่า หลายสโมสรเริ่มแจ้งทีมงานนักเตะของตัวเองว่า พรีเมียร์ลีกมีแนวโน้มจะเริ่มแข่งในวันที่ 13 มิถุนายน จึงขอให้ทุกคนเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมเสมอ

ในส่วนของวิธีการฝึกซ้อมและดูแลนักกีฬาในสังกัด ทางลีกอนุญาตให้แต่ละทีมพิจารณาตามความเหมาะสม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน