ศราวุฒิ มาสุข อดีตกองหน้าทีมชาติไทย ยืนยันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการพนันจนเป็นท่วมหัว พร้อมแนะนำเพื่อนนักเตะอย่าเลือกหนีปัญหาด้วยการหายตัวไปเหมือนที่ตนเคยทำ
ศราวุฒิ มาสุข มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าติดหนี้พนันฟุตบอลจนต้องหลบลี้หนีหน้า จนทำให้ หนองบัว พิชญ เอฟซี ประกาศยกเลิกสัญญา กระทั่ง “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จนผ่านวิกฤติชีวิตมาได้ พร้อมกับได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะใหม่ของเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ทีมดังในศึกไทยลีก 2
กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่
อดีตฮีโร่เหรียญทองฟุตบอลชายซีเกมส์ ที่เมียนมา เมื่อปี 2013 เผยว่า “ตอนนี้ผมมาอยู่ที่เชียงใหม่ ได้ราว 2 สัปดาห์แล้ว แม้ว่าทีมจะยังไม่มีการเรียกรวมตัวฝึกซ้อม แต่ผมมาถึงต้องเริ่มซ้อมทันที เพราะท่านสว.ก๊อง (ชูชัย เลิศพงศ์อดิศร) ประธานสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด อยากให้ผมเรียกความฟิตส่วนตัวกลับมาให้ทันคนอื่นๆ ในทีม เพราะผมเองหยุดกิจกรรมฟุตบอลไปนาน จึงให้แพทย์ประจำทีมมาประกบตัวต่อตัวกับผมในการฝึกซ้อม สัปดาห์ละ 3 วัน ทำให้ความพร้อมของร่างกายตอนนี้กลับมาราว 60-70 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยเชียงใหม่ ยูไนเต็ด จะมีการเรียกนักเตะกลับเข้าแคมป์อีกครั้งราวๆ วันที่ 25 พ.ค.”
“ส่วนช่วงที่มีปัญหาจนต้องหายหน้าจากวงการฟุตบอลไปนานนับเดือน ต้องยอมรับว่าช่วงนั้นผมเครียดหลายอย่าง ทั้งเรื่องปัญหาครอบครัว เรื่องของการเงิน พอเกิดปัญหาหลายๆ อย่างรวมกัน ซึ่งผมเองไม่ได้ปรึกษาใครเลย และไม่อยากปรึกษาใคร ไม่อยากให้ใครต้องมาคอยช่วยเหลือ จึงตัดสินใจออกไปเลยดีกว่า โดย”ส่ไม่บอกใครสักคน”
“ช่วงแรกๆ ผมไม่ได้บอกแม้แต่ครอบครัว เพราะตัดสินใจว่าจะออกจากวงการฟุตบอลและไม่อยากให้ใครรับรู้ปัญหาของผม จนคนในครอบครัวกังวล ทำให้ผมต้องบอกว่าไม่เป็นอะไร ตอนนี้ผมสบายดีเพื่อให้คนในบ้านสบายใจซึ่งผมบอกแค่นั้น”
“ส่วนที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับที่ผมส่วนกับเรื่องของการพนัน ติดหนี้พนัน จนต้องหนี หลบหน้าทุกคน เรื่องนี้ผมขออนุญาตบอกว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แต่เป็นความจริงเรื่องการหยิบยืมเงินจากญาติ พี่น้อง เพื่อนๆ ช่วงที่ไม่มีเงินเดือนในช่วงปิดฤดูกาลในเดือนพ.ย. – ธ.ค. เพราะช่วงนั้นฟุตบอลลีกปิดฤดูกาล และที่สำคัญผมยังไม่มีสังกัดทำให้ไม่มีเงินเดือน ทุกอย่างเลยสะสมมาเป็นปัญหาในช่วงต้นปีที่ผ่านมา”
“แต่พอท่านนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ (พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง) เรียกเข้าไปพูดคุยเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา ทำให้ทุกอย่างเริ่มที่จะคลี่คลายในหลายๆ จุด ด้วยการที่ท่านจัดตั้งคณะกรรมการมาช่วยดูแลทำให้ผมค่อยๆ เคลียร์ปัญหาทีละอย่างไปได้ ผมยอมรับว่าตอนที่หายหน้าไป ไม่ได้มีความคิดหรือคาดหวังว่าจะกลับมาเตะฟุตบอลอีกแล้ว เพราะตอนที่ผมตัดสินใจเดินออกไปคิดไว้แล้วว่าเราคงพอแล้วกับวงการฟุตบอล เนื่องจากความเครียดหลายๆ อย่าง จึงไม่อยากเตะฟุตบอลอีกแล้ว”
“ยิ่งพอออกไปอยู่กับตัวเองแล้วมาทราบอีกทีว่า หนองบัว พิชญ เอฟซี ตัดสินใจยกเลิกสัญญา และได้บอกเรื่องนี้กับครอบครัว ผมจึงบอกกับครอบครัวว่าเมื่อทุกอย่างเป็นอย่างนั้นแล้วคงไม่กลับไปเล่นฟุตบอลอีกแล้ว เมื่อท่านนายกสมาคมฟุตบอลติดต่อมาผมบอกแค่เพียงว่าอยากกลับมาใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้คาดหวังกับการกลับมาเล่นฟุตบอล เพราะผมโดนยกเลิกสัญญาไปแล้ว และฤดูกาลแข่งขันได้เริ่มแล้ว จึงไม่คิดว่าจะกลับไปเตะฟุตบอลได้อีก”
“ท่านนายกสมาคมฟุตบอลได้บอกกับผมว่าตอนนั้นทุกอย่างยังไม่แน่นอนว่าจะกลับมาเปิดลีกอีกครั้งได้หรือไม่ ไม่ทราบว่าจะต้องยกเลิกโปรแกรมแข่งเลยหรือแข่งต่อ จะมีการเปิดลงทะเบียนนักเตะใหม่หรือไม่ ประกอบกับการที่มีข่าวว่าผมโดนยกเลิกสัญญาทำให้กลายเป็นนักเตะไร้สังกัดทำให้ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด แสดงความสนใจจากผลงานส่วนตัวที่ผ่านมา เพราะสโมสรต้องการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก 1 จึงต้องการนักเตะที่มีศักยภาพเข้าไปเติมเต็ม และพอได้มีการพูดคุยกับเชียงใหม่ แค่วันเดียวทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็วในวันนั้นเลย มีการเซ็นสัญญาเรียบร้อยทันที”
“ตอนนี้ผมโฟกัสอยู่กับฟุตบอลเพียงอย่างเดียว เพราะอย่างที่ทราบว่าเชียงใหม่มีเป้าหมายชัดเจนคือการเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นไทยลีก 1 โดยส่วนตัวจึงมุ่งมั่นว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมให้ได้ เนื่องจากท่านส.ว.ก๊อง บอกกับผมว่าแม้จะให้โอกาสกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง แต่ไม่ได้การันตีว่าผมจะได้เป็นตัวจริงทุกคนต้องพิสูจน์ตัวเองว่าดีพอจึงจะได้รับโอกาส ผมจึงตั้งใจมุ่งมั่นคว้าโอกาสนั้นกลับมาเป็นของผมอีกครั้งให้ได้”
“สุดท้ายอยากจะฝากถึงพี่น้องนักฟุตบอลด้วยการจากประสบการณ์ส่วนตัวว่าเวลาเราเกิดปัญหาเวลาเราคิดคนเดียว หรืออยู่คนเดียว อาจจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง แต่ปัญการตัดสินใจอยู่แค่คนเดียว แต่ว่าเกิดปัญหาที่มารุมเร้าเยอะๆ อยากให้เริ่มปรึกษาทางครอบครัวก่อน หรือปรึกษาผู้ใหญ่ที่เราไว้ใจว่าจะพอมีแนวทางแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ไม่อยากให้หนีปัญหาเหมือนกับที่ผมทำ อยากฝากถึงแฟนบอลทุกคนที่คอยให้กำลังใจ แม้จะมีบ้างที่ตามมาซ้ำเติมเราโดยที่เขาไม่รู้เรื่องที่แท้จริง ผมรู้ว่าทุกคนมีโอกาสผิดพลาดเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะมีโอกาสกลับมาสู่ชีวิตปกติได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อผมมีโอกาสกลับมาอีกครั้งจึงอยากจะใช้โอกาสนี้ตอบแทนทุกคนพื้นหญ้าสนามฟุตบอลอีกครั้ง”
