หากมีการจัดอันดับนักมวยไทย ยอดเยี่ยม ตลอดกาลผู้กลายเป็นตำนาน หนึ่งในนั้น ต้องมีชื่อของ “ไอ้หนู เมืองตรัง” พุฒ ล้อเหล็ก แชมเปี้ยนมวยไทย ติดอยู่ในทำเนียบ

เพราะความเก่งกาจ เพราะตำนานเรื่องเล่ามีมากมาย เมื่อต่อยอดบอกต่อกันไปจึงผิดบ้าง ถูกบ้างผิดๆเพี้ยนกันไปมากมาย

อย่างเรื่องราวของ ยอดมวยเมืองตรัง พุฒ ล้อเหล็ก ผู้นี้ แท้จริงมีเชื่อเพียงทำเดียวสั้นๆว่า “ทวี พิพัฒกุล” แต่เหตุผลกลใดไม่ทราบแจ้ง ในเวลาต่อมามีการต่อเติมเพิ่มชื่อเป็น “ทวีศักดิ์”
จากการยืนยันของ “อาหว่าง” สว่าง สวางควัฒน์ สื่ออาวุโสผู้ล่วงลับ ซึ่งเคยเขียนตำรา ชีวประวัติของ พุฒ ล้อเหล็ก ไว้อย่างชัดเจน

 

แต่ความคลุมเครือมากมายก็ยังปรากฏให้เห็น เช่น พุฒ ยอดมวยไทยจาก อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เคยให้สัมภาษณ์สื่อออกทีวีว่า ตนเกิดเมื่อปี พ.ศ.2496 ทั้งๆที่ อาหว่าง ผู้ขึ้นชื่อเรียงประวัติเคยซักถามเจ้าตัวละเอียดยิบ บันทึกชัดเจนว่า เขาเกิดในวันที่ 1 ม.ค. 2495 นั่นจึงเป็นข้อกังขา เมื่อจากตัวจากโลกไปในวัย 68 ปี เมื่อราวๆสามทุ่มคืนวันที่ 1 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา

ความเก่งกาจของยอดมวยเมืองใต้รายนี้ ทั่วทั้งปฐพีเวทีนักสู้ ทุกยุคทุกสมัยล้วนกล่าวขาน และยกย่องให้เขา คือยอดมวยไทย ชนิดหาตัวจับยาก ทั้งเชิงมวย รวดเร็วแพรวพราว และธาตุทรหด
ตลอดชีวิตการต่อสู้ ไม่เคยแพ้น็อกใคร แม้แต่จะถูกต่อยน็อคดาวน์ (ร่วงนับ แต่ในความเป็นจริงนั้น พุฒ เคยพลาดโดน “น้าเษม” ศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์ ต่อยร่วงปลายยกแรก ทว่ากรรมการ ประสิทธิ อำพันแสง ผู้ห้ามบนเวทีมัวเหม่ออย่างไรไม่ทราบได้ กลับไม่นับทำเอาเซียนมวยบนล็อกตะโกนด่าทอกันโหวกเหวง ก่อนระฆังช่วยและยอดมวยเมืองตรังฟื้นตัว พลิกกลับมาชนะคะแนนขาดลอย

แม้กระนั้น ศิริมงคล ยังคงภูมิใจ ว่าตน นี่แหละ เคยต่อยยอดมวยเมืองใต้จนลงไปคลานหาอีแปะมาแล้ว และตัวของพุฒเองก็เคยสารภาพจากปากต่อหน้า อาหว่าง สื่อรุ่นพ่อว่า นักมวยที่หมัดหนักที่สุดในชีวิตที่ตนเคยเจอ ก็คือ น้าเษม สุภาพบุรุษนักชก(เคยต่อยคู่ชกตาย) จาก ย่านบางปะกง ฉะเชิงเทรา ผู้นี้แหละ

 

แถมยังวิพากษ์อีกด้วยว่า หมัดแกหนักยิ่งกว่า “ไอ้แสบ” แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ คู่ปรับคู่อาฆาต ที่ตนเคย แอบเอา แองเกิ้ล แช่เยี่ยว 3 วัน 3 คืน ใส่ขึ้นชกล้างตาจนะเอาชนะแสนศักดิ์มาแล้วด้วย (พุฒ เคยชนะ แสนศักดิ์ 3 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง)

พุฒ เคยพิสูจน์ความเป็นยอดมวยไทย ด้วยการพบกับ วิชาญน้อย พรทวี คู่ต่อสู้สำคัญ ผลัดกันแพ้ชนะ จนได้รับการยกย่องว่า เขาคือของจริง (แพ้ 2 ชนะ 1)

และยังมีเกร็ดชีวิตทั้งขำๆ แต่หากนำมาเล่าในยุคนั้นอาจฮาไม่ออก อีกมากมายหลายเรื่องซึ่งถือเป็นตำนานของยอดมวยผู้นี้

อาทิ ช่วงที่พีคสุดๆ พุฒ น่าจะได้ต่อยกับ ขุนพลน้อย เกียรติสุริยา แชมเปี้ยนมวยกระดูกถึงกัน ซึ่งขุนพลน้อย เคยเอาชนะ ผุดผาดน้อย วรวุฒิ ถึง 2 ครั้ง แย่งแชมป์มวยไทยไปครอง ซึ่ง “พี่หมู”ผุดผาดน้อย เป็นมวยค่ายเดียวกับพุฒ ก่อนที่ขุนพลน้อยจะแพ้พี่หมู ครั้งที่ 3

ผุดผาดน้อย เป็นรุ่นพี่ของ พุฒ อายุแก่กว่าหนึ่งปี เมื่อครั้ง ครูเฒ่า ชนะ ทรัพย์แก้ว พาพุฒขึ้นมาเมืองกรุง มาอยู่ค่ายมวย วรวุฒิ ด้วยกันใหม่ๆ วันแรกของการลงนวมจริง พุฒ นั้นสู้ ผุดผาดน้อย ที่เคยชกในเวทีแถวภาคอิสานนับร้อยไฟต์มากกว่ากันไม่ได้เลย แต่ พุฒ เพิ่งจะมาชกในเมืองกรุงเพียงแค่สิบกว่าไฟต์เท่านั้น

ทว่าในอีก ไม่กี่วันถัดมา หลังปรับตัวฟิตซ้อม และลงนวมกันใหม่ ผุดผาดน้อย กลับสู้ พุฒ ล้อเหล็กไม่ได้อีกเลยนับแต่นั้น และเป็นที่น่าเสียดาย ด้วยเหตุที่ทั้งคู่อยู่ค่ายเดียวกัน จึงไม่มีโอกาสได้ประฝีมือกันอย่างจริงจังบนเวทีตลอดชีวิตการชกอาชีพ

ไม่เพียงเท่านั้น พุฒ ยังยอมเปิดปากสารภาพหลังตนเองเลิกมวยไปแล้วหลายปี ถึงการพลิกแพลง ใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆ สมัยเมื่อชกมวย

อาทิ การบอกให้เพื่อนปักษ์ใต้ด้วยกัน ไปเดิมพันว่า ตนจะไหว้ครูได้นานเกิน 10 นาทีหรือไม่ หลังจากปกติ แล้ว ยอดมวยอย่างพุฒจะใช้เวลา ไหว้ครูนานถึง 8 นาที ซึ่งในไฟต์พบกับ วิชิต ลูกบางปลาสร้อย ต่างฝ่ายนั่งขัดสมาธิจ้องหน้ากันบนเวทีนานนับนาที เรียกเสียงฮือฮาคนดู ก่อนจะใช้เวลาทั้งสิ้นราวสิบนาทีในการไหว้ครู เพื่อให้เพื่อนที่จับเดิมพันได้กินเงินพนันคู่แข่ง

ไม่เพียงเท่านั้น หลังเลิกมวยไปพักใหญ่ ในการคัมแบ๊กคืนสังเวียน พบ โพธิ์ไทร สิทธิบุญเลิศ พุฒยังบอกเพื่อนพ้องละแวกบ้าน ให้จับเดิมพันฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากตนนั้นอ่อนซ้อม ทว่าในการชกจริง พุฒ ทั้งดึงทั้งผ่อน แต่คู่ชกกลับทำท่าจะเพลี่ยงพล้ำมากกว่า ถึงยก 4 พุฒทำท่าจะไม่สู้ คนดูเริ่มโห่ ด้วยความที่กลัวเพื่อนๆที่ถือหางจะเสียเดิมพัน เจ้าตัวจึงลงจากเวทีขอยอมแพ้กันดื้อๆ โดยมีตำรวจเดินคุ้มกันกลับบ้าน

นี่เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆ ที่เจ้าตัวยอมเปิดใจสารภาพจากปาก ให้กับคนใกล้ชิดในวงการ และไม่ว่า จะเป็นเช่นไร ชื่อของ “ไอ้หนู เมืองตรัง” พุฒ ล้อเหล็ก ยังคงเป็นยอดมวยในตำนาน ให้ผู้คนได้กล่าวขานสืบไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน