กกท. คาดจ่ายเงินเยียวยา ให้นักกีฬา ได้รับความเดือนร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 หลังวันที่ 22 มิ.ย.นี้ รอเพียงบอร์ดกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประชุมพิจารณาอนุมัติงบประมาณเท่านั้น
กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่
“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า กกท. วางแผนไว้ว่า จะจ่ายเงินช่วยเหลือ สนับสนุนให้นักกีฬา และบุคลากรวงการกีฬา ที่เข้าหลักเกณฑ์ ได้รับความเดือนร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของกีฬาอาชีพ และกีฬามวย หลังวันที่ 22 มิ.ย.นี้ โดยรอเพียงแค่ คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประชุมพิจารณาอนุมัติงบประมาณ ในวันที่ 22 มิ.ย. เท่านั้น
ส่วน กรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ประกาศคลายล็อค ระยะ 4 ไปแล้ว โดยอนุญาตให้สนามกีฬา หรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ลานเล่นกีฬา หรือเพื่อการเรียนการสอนในทุกประเภทกีฬา สามารถจัดการแข่งขัน และจัดให้มีการถ่ายทอดโทรทัศน์การแข่งขันกีฬาได้ แต่ต้องไม่มีผู้ชมอยู่ในสนามแข่งขัน และผู้จัดการแข่งขันต้องดำเนินการตามขั้นตอน และวิธีการที่ทางราชการกำหนด
ในเรื่องนี้ ผู้ว่าการกกท. ย้ำว่า แม้ว่า ศบค. จะอนุญาตให้จัดการแข่งขันกีฬา ทั้งกลางแจ้ง และในร่ม โดยไม่มีผู้ชม ได้แต่ก็มีการระบุไว้ว่า ผู้จัดการแข่งขันต้องดำเนินการตามขั้นตอน และวิธีการที่ทางราชการกำหนด ดังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย กกท. จึงจำเป็นต้องกรองอีกขั้นหนึ่ง ในการอนุญาตให้แต่ละชนิดกีฬา ได้จัดการแข่งขัน
ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึง กกท. ได้ทำหลักเกณฑ์ กำหนดมาตรการจัดการแข่งขัน ไว้แล้ว ซึ่งชนิดกีฬาใด ที่จะจัดการแข่งขัน จะต้องมาลงทะเบียนกับ กกท. อย่างเป็นทางการ และพูดคุยกัน ว่าสามารถทำตามที่ กระทรวงฯ และ กกท. กำหนดไว้ได้หรือไม่ เช่น มาตรการป้องกันในด้านต่าง ๆ การจำกัดเจ้าหน้าที่ในสนาม การทำความสะอาดสถานที่ สนามกีฬา เป็นต้น ถ้าทำได้ กกท. ถึงจะอนุญาตให้จัดการแข่งขันได้
“ส่วนขั้นตอน ต่อจากที่ ศบค. เปิดทางให้จัดแข่งขันกีฬา โดยไม่มีผู้ชม ถ้าผลออกมาดี ผู้จัด และสมาคมกีฬา ทำตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ร่วมกันป้องกันโควิด-19 ไปในทิศทางเดียวกัน ก็มีโอกาสที่ กกท. จะเสนอในเฟส 5 ให้มีผู้ชมแบบจำกัดจำนวน ต่อไป ขณะที่การที่จะเปิดให้แฟนกีฬา เข้าชมกีฬาได้ตามปกติ ส่วนตัวมองว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 จะเป็นตัวแปรที่สำคัญ ในการกำหนดทิศทางการเข้าชมกีฬาในประเทศไทย” ดร.ก้องศักด กล่าว
