ทรูวิชั่นส์ ชี้ไทยลีกควรเลื่อนเตะให้เร็วขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นแล้ว รวมถึงต้องเตะให้จบในเดือนพ.ย. หากเลยไปปีหน้า จะกระทบแผนถ่ายทอดสดที่วางไว้

ทรูวิชั่นส์ – ความเคลื่อนไหวของการแข่งขันไทยลีก ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กำหนดโปรแกรมใหม่โดยให้เริ่มกลับมาเตะนัดที่ 5 ในวันที่ 12 ก.ย. และไปปิดฤดูกาลในเดือน พ.ค. ของปีถัดไป อย่างไรก็ตาม จากการปรับโปรแกรมดังกล่าว ส่อกระทบกับทรูวิชั่นส์ในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก และกำลังจะหมดสัญญาใน พ.ย.63 นี้

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุด นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่ทรูวิชั่นส์ได้ทำหน้าที่สนับสนุน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ 2017-2020 และดำเนินการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกในช่วงเดือนก.พ. – พ.ย. แต่ในปีนี้มีวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปเพื่อความปลอดภัยตั้งแต่เดือนมี.ค. ซึ่งตรงนี้เข้าใจว่าเป็นเรื่องสุดวิสัย

นายองอาจ กล่าวอีกว่า ในช่วงปลายเดือนเม.ย. สมาคมได้มีการกำหนดโปรแกรมแข่งขันออกมาใหม่ที่มีการเตะแบบข้ามปี แต่ทางทรูวิชั่นส์ ไม่ได้รับการติดต่อหรือมีส่วนร่วมในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพียงทราบข้อมูลจากทางสื่อมวลชน หลังจากนั้นในเดือนพ.ค. ถึงได้รับหนังสือของสมาคม เพื่อแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ของไทยตอนนี้ ถือว่าเริ่มดีขึ้น จากการถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีการฟื้นตัวจากโควิด-19 เป็นอันดับ 2 ของโลก อันดับ 1 ของเอเชีย อีกทั้งฟุตบอลในลีกต่างประเทศเริ่มกลับมาแข่งขันได้แล้ว

“ในมุมมองของทรูวิชั่นส์ ฟุตบอลไทยลีก ควรกลับมาเตะให้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ อีกทั้งเรายังได้รับการเรียกร้องจากลูกค้าที่ต้องการรับชมเกมลูกหนังไทยลีก นอกจากนี้ เรายืนยันว่าต้องมีการแข่งขันให้จบในเดือนพ.ย. ตามสัญญาที่ได้มีการตกลงกัน หากต้องข้ามไปถึงปีหน้า จะทำให้กระทบแผนงานถ่ายทอดสดกีฬาอื่นๆ ที่ทรูวิชั่นส์ เตรียมไว้ด้วย ดังนั้น ทรูและสมาคม ควรต้องมีการหาทางออกร่วมกันให้ได้ผลดีที่สุดกันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเราเตรียมนัดเจรจาสมาคมลูกหนังในเร็วๆ นี้แล้ว”

เมื่อถามว่า หากสมาคมไม่สามารถทำตามในข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้ ทางทรูจะดำเนินการอย่างไรบ้าง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตอบในเรื่องนี้ อยากให้มีการเจรจากับสมาคมฟุตบอลก่อน และหวังว่าจะได้ทางออกที่ดีและเหมาะสมกับทุกฝ่าย

ส่วนในอนาคตทรูวิชั่นส์ จะมีโอกาสจะเจรจากับผู้ถือลิขสิทธิ์รายใหม่ เพื่อนำไทยลีกมาให้ชมหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า ตอนที่ สมาคมเปิดให้มีการยื่นประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดรอบใหม่ ทางทรูวิชั่นส์ได้มีการยื่นเช่นกัน แต่ไม่ได้เป็นผู้ชนะ จึงเป็นเรื่องของผู้ถือสิทธิ์รายใหม่ที่จะบริหารจัดการ แต่ถ้าเจ้าอื่นที่ได้ลิขสิทธิ์ไปจะมาเช่าช่องสัญญาในการถ่ายทอดสด เพราะเรามีแพลตฟอร์มพร้อมอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับเงื่อนในการเจรจาเรื่องมูลค่าต่างๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน