ดราม่ายิงสดไทยลีก เริ่มเห็นเค้าลางทางออกที่ดีหลังจากทรูวิชั่นส์ เจ้าของลิขสิทธิ์เข้าเคลียร์ปัญหากับสมาคมบอล แต่ยังไร้บทสรุปชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วอะไรดีที่สุด
ดราม่ายิงสดไทยลีก – จากประเด็นเรื่องปฏิทินการแข่งขันฟุตบอลอาชีพไทย ซึ่งมีสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย อ้างถึงมติที่ประชุมสโมสรไทยลีก 1-2 ปรับจากจบในเดือนพ.ย. เป็น เริ่มแข่งก.ย.ปีนี้ ไปจบ พ.ค.ปีหน้า อันเนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และประกาศของรัฐบาล
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
อย่างไรก็ตาม ทรูวิชั่นส์ ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ระบุว่า การเปลี่ยนโปรแกรมดังกล่าว ถือว่าผิดสัญญา ต้องการให้กลับมาแข่งปฏิทินเดิม ทรูวิชั่นส์ไม่สามารถถ่ายทอดสดในปีหน้าได้ พร้อมยกเงื่อนไขเรื่องงดจ่าย หรือ ลดจ่ายค่าสิทธิประโยชน์ ที่จะจ่ายตามมูลค่าจริง
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 มิ.ย. นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เข้าหารือกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
หลังการประชุมราว 1 ชั่วโมงเศษ นายองอาจ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ทั้ง 2 ฝ่ายได้มาอธิบายปัญหาของกันและกัน ซึ่งไทยลีก เป็นหนึ่งในกีฬาที่ ทรูวิชั่นส์ ต้องการให้กลับมา เพื่อดึงเรตติ้ง เช่นเดียวกับที่เคยขอไปที่พรีเมียร์ลีก บุนเดสลีกา ได้วิงวอนว่า ให้สมาคมช่วยเร่งรัด ที่สำคัญถ้าล่วงไปปีหน้า เมื่อ ทรูวิชั่นส์ ไม่ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายบอลไทย จึงได้ไปซื้อด้านอื่นมาแล้ว จึงจำเป็นขอให้สมาคมจบในปีนี้ จึงฝากทางนายกดูว่าจะปรับแก้อะไรได้ไหม
เมื่อถามว่า ถ้าแข่งปีหน้า ทรูวิชั่นส์จะถ่ายทอดสดไม่ได้แน่นอนใช่หรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า จะทำได้ยาก แต่จะมีแนวทางอย่างไรต้องให้แต่ละภาคส่วนไปทำการบ้าน ในแนวทางที่เป็นไปได้ ซึ่งต้องขอบคุณพล.ต.อ.สมยศ และกรรมการ ที่คุยวันนี้ได้ทราบถึงเหตุผลของสมาคม วันนี้เป็นบรรยากาศที่ดี ให้เกียรติกัน พูดคุยกันด้วยดี
ต่อข้อสอบที่ว่ามีการคุยเรื่องลดค่าสิทธิประโยชน์หรือไม่ บิ๊กทรูวิชั่นส์ กล่าวว่า ต้องไปดูในรายละเอียด จำนวนคู่ที่ถ่ายได้ ซึ่งนายกสมาคมบอกว่าต้องหารือสโมสร จากนั้นดูว่าจะถ่ายได้เท่าไหร่ เตะข้ามปีหรือไม่ มีผลกระทบอย่างไรต้องแจ้งให้สื่อมวลชนทราบเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป
“วันนี้การประชุมเป็นไปทางบวก ส่วนวิธีการต้องหาว่าทำอะไรได้บ้าง แผน A B C D แล้วมีผลกระทบอย่างไร เมื่อมีแผนชัดเจน เราตอบรับแนวทางไหนได้บ้าง จะชี้แจงต่อไป โดยคิดว่าจะมีข้อสรุปเร็วๆ นี้ เพราะเราเป็นพันธมิตรกันมานาน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อทรูต้องการให้จบในปีนี้ แต่สมาคมต้องการจบในเดือนพ.ค. จะมีโอกาสที่จะปรับมาเจอกันครึ่งทางหรือไม่ นายองอาจบอกว่า มีหลายมิติที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องมีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะขยับกันได้อย่างไร ต้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน เพราะมีผู้เกี่ยวข้องเยอะ คงต้องกลับมาคุยอีกทีในเร็วๆ นี้
