สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยอมรับเสียงอ่อย ดูท่า แผนการเตรียมอุ่นเครื่อง ทีมชาติไทย ในช่วงเดือนกันยายน น่าจะเป็นเรื่องไกลเกินความจริง

หลังจากที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้มีการเปิดเผยขั้นตอนสำหรับการนำนักฟุตบอลต่างชาติของแต่ละสโมสรกลับมายังประเทศไทย เพื่อเตรียมทำการแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศที่จะกลับมาเริ่มแข่งขันในช่วงเดือนกันยายนนี้

ซึ่งขั้นตอนนั้นเริ่มตั้งแต่การยื่นเรื่องไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอใบอนุมัติ จากนั้นนักเตะต้องไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากประเทศต้นทาง พร้อมทำประกันในวงเงินไม่น้อยกว่า 1 แสนเหรียญสหรัฐ เผื่อกลับมาพบว่ามีการติดเชื้อไวรัส ทางประกันจะได้เป็นผู้รับผิดชอบ และจองที่พัก 14 วันเพื่อทำการกักตันหลังจากเดินทาถึงประเทศไทย นั้น

จากการสอบถามไปยัง นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถึงกรณีขั้นตอนต่างๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเตรียมทีมอุ่นเครื่องให้กับ ทีมชาติไทย ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ปลายเดือนสิงหาคม-ต้นเดือนกันยายนหรือไม่

นายพาทิศ กล่าวว่า ต้องรอดูว่าหลังจากที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ทั้งเปิดโรงเรียนและเปิดน่านฟ้า และไม่มีเหตุการณ์ระบาดรอบที่ 2 ขึ้นมา ก็เชื่อว่าจะมีการเปิดประเทศมากกว่านี้ แต่ถ้าหากไม่ดีขึ้น ก็อาจจะต้องใช้รูปแบบเดียวกับการนำนักกีฬาต่างชาติเข้าประเทศอย่างที่กำลังทำอยู่ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่วุ่นวายและยากลำบากในการจะหาทีมมาลงเล่น

แต่ถ้าหากสถานการณ์ดีขึ้น แล้วมีการผ่อนปรนในระยะต่อไป ก็อาจจะมีการนำคนเข้าประเทศได้ดีขึ้น ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องยากในการเตรียมการเช่นกัน นอกจากจะนำใครเข้าประเทศได้ยากแล้ว การเดินทางออกนอกประเทศก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน วิธีที่ง่ายคือต้องเป็นแขกของทางรัฐบาล แต่ว่าการแข่งขันฟุตบอลนั้นยังไม่ใช่ระดับที่จะทำเรื่องในแบบนั้นได้

ดังนั้นในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนกันยายน ทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ให้โอกาสในการเตรียมอุ่นเครื่องเพื่อเตรียมพร้อมก่อนจะกลับมาแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ในเดือนตุลาคม ซึ่งก็แล้วแต่ว่าแต่ละประเทศจะจัดการแข่งขันได้หรือไม่ ตามแต่สภาพของแต่ละประเทศ ซึ่งของไทยคงจะต้องรอดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้างแล้วค่อยเริ่มคุยในเชิงลึกอีกครั้ง
ในส่วนของ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่น ซึ่งเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น นายพาทิศ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ พยายามทำเรื่องเพื่อให้เขาเดินทางกลับมาได้ภายในเดือนนี้ และหลังจากที่กักตัวครบ 14 วัน ก็จะกลับมาเริ่มทำงานทันที

“เบื้องต้นนั้นทางนิชิโนะจะขอเดินทางไปดูนักเตะฝึกซ้อมที่สนามซ้อมของแต่ละสโมสรเป็นหลักก่อน เพราะเชื่อว่าแต่ละทีมกำลังเข้าสู่ช่วงปรีซีซั่นเพื่อกลับมาแข่งขันในเดือนกันยายน และต้องให้เวลาในการเตรียมตัว จากนั้นค่อยเรียกตัวมารวมตัวกันในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนกันยายน เพื่อเตรียมทีมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน