ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี นัดที่ 4 วันที่ 11 ต.ค. “ช้างศึก”ทีมชาติไทย ที่แพ้ 3 นัดรวด ยังไม่มีคะแนน รั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม พบกับ อิรัก อันดับ 5 ที่แพ้ 3 นัดรวด ยังไม่มีคะแนนเช่นกัน ที่สนามปาส ในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เนื่องจาก อิรัก ถูกแบนห้ามเตะในบ้าน แข่งขันเวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ถ่ายทอดสด ส่วนโปรแกรมอีก 2 คู่ในสายเดียวกัน ออสเตรเลีย พบ ญี่ปุ่น และซาอุดีอาระเบีย พบ ยูเออี

ล่าสุดเมื่อ 10 ต.ค. มีการแถลงข่าวความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ที่ห้องประชุม ภายในศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติประเทศอิหร่าน โดย “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า ไทยคาดหวังถึงชัยชนะแม้เป็นเรื่องที่ยาก

“เกมนี้ยังเป็นเกมที่หนักของเราเพราะ อิรักมีการปรับเปลี่ยนทีมจากที่เคยพบกันมาในนัดล่าสุดพอสมควร ทั้งเฮดโค้ชและตัวผู้เล่นที่เป็นชุดโอลิมปิกเกือบทั้งหมด โดยอิรักชุดนี้เคยเสมอบราซิลแชมป์โอลิมปิกมาแล้ว อย่างไรก็ตามเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องชนะเท่านั้น ซึ่งช่วงหลังเรากับอิรักเจอกันบ่อยและเราทำผลงานได้ดี ดังนั้นต้องมีสมาธิและจบสกอร์ให้เฉียบคม”

“ซิโก้” กล่าวอีกว่า ถึงตอนนี้ยังไม่มีทีมใดผ่านเข้ารอบ ดังนั้นไทยยังคงมีหวัง ซึ่งเกมกับอิรักสำคัญมาก หากเก็บแต้มได้จะทำให้มีกำลังใจในการสู้ต่อไป โดยไทยมีเกมในบ้านอยู่ในมืออีกถึง 4 นัดด้วยกัน

จากนั้นช่วงเย็นนักเตะไทยได้ลงฝึกซ้อมที่สนามแข่งขันจริง โดยให้สื่อมวลชนบันทึกภาพได้เพียง 15 นาที ซึ่งคาดว่า “ซิโก้” จะปรับทัพเพียงตำแหน่งเดียว โดยส่ง “ปีโป้”สิโรจน์ ฉัตรทอง ยืนทำเกมริมเส้นทางซ้ายแทน เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ยังเป็นชุดเดียวกับเกมล่าสุดที่บุกแพ้ ยูเออี 1-3

สำหรับ 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนามของไทยในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ทริสตอง โด, ธีราทร บุญมาทัน, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, กรวิทย์ นามวิเศษ, สารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ปกเกล้า อนันต์, มงคล ทศไกร, สิโรจน์ ฉัตรทอง และ “มุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดา

ด้าน ราดี ซวาดี กุนซืออิรัก นำทีมลงเตะนัดแรกบุกแพ้ ออสเตรเลีย 0-2 ต่อด้วยแพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 และล่าสุดบุกแพ้ ญี่ปุ่น 1-2 กล่าวว่าสถานการณ์ของทีมค่อนข้างกดดัน แม้จะได้สิทธิ์เป็นเจ้าบ้านแต่ไม่ได้เปรียบทีมเยือนเลยเพราะต้องเล่นสนามกลาง แต่ยังหวังถึงชัยชนะเพื่อลุ้นเข้ารอบ โดยเกมนี้จะไม่มี จัสติน เมรอม กองหน้าจากโคลัมบัส ครูว์ ในเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา เนื่องจากบาดเจ็บ และยูเนส มามูดห์ ดาวยิงตัวเก๋าที่ไม่ถูกเรียกมาติดทีม แต่ยังมีอาลี อัดนาน ปีกซ้ายจากอูดิเนเซ ในกัลโช ซีเรียอา อิตาลี, อาเหม็ด ยาสซีน กานี และอลา อับดุลเซห์รา นำทีม

สำหรับสถิติที่ทั้ง 2 ทีมเคยพบกันในรายการที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ให้การรับรองปรากฏว่าเจอกัน 15 ครั้ง อิรัก ชนะ 8, เสมอ 5 และ ไทย ชนะ 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่พบกัน ไทย บุกเสมอ อิรัก 2-2 ที่สนามปาส ประเทศอิหร่าน แห่งนี้ ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 2 เมื่อ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน