หลังจากหลายฝ่ายเริ่มตั้งข้อสังเกตุเรื่องซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018 ที่กำหนดฟาดแข้งปีหน้า ที่ประเทศรัสเซีย สำหรับประเทศไทยยังไม่มีเอกชนรายใดสนใจจะคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดดังกล่าวแต่อย่างใด กระทั่งมีการพูดถึงโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือ ทีวีพูล อาจเป็นทางออกของเรื่องนี้
ล่าสุด พล.ท.สบโชค ศรีสาคร เลขานุการโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) กล่าวว่า สำหรับเรื่องของการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียนั้น ตอนนี้ทีวีพูลกำลังรอดูสถานการณ์ เนื่องจากค่าลิขสิทธิ์ที่ได้รับแจ้งมานั้น ราคาค่อนข้างสูง ประมาณ 32-35 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,072-1,172 ล้านบาท) ทำให้เป็นเรื่องที่ยากสำหรับการจะซื้อลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดสด
“ในการทำธุรกิจนั้น ต้องเป็นตัวเลขที่ผู้ซื้อสามารถอยู่ได้ ทีวีพูลเองมีบทเรียนจากซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่นครริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อปีก่อน ซึ่งขาดทุนอย่างหนักถึง 30-40 ล้านบาททุกช่อง จึงไม่อยากให้เกิดปัญหาเช่นนี้ซ้ำอีก”
ทั้งนี้ฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดที่ประเทศบราซิล ปี 2557 เป็นการเปิดประมูลกับฟีฟ่า และ“อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์”ของบมจ.อาร์เอส ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทางกล่อง ซันบ๊อกซ์ ของทางบริษัทเท่านั้น โดยให้ฟรีทีวีถ่ายทอด 22 คู่ แต่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ยกกฎหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป (มัสต์แฮฟ) ออกมาเพื่อหวังให้อาร์เอสถ่ายทอดสดครบทุกคู่ ผ่านทางฟรีทีวี จนกระทั่งมีการฟ้องร้องและอาร์เอสเป็นฝ่ายชนะ เนื่องจากซื้อลิขสิทธิ์มาก่อนที่จะออกกฎ กระทั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ช่วยออกค่าลิขสิทธิ์ 427 ล้านบาทเป็นเงินชดเชยกับอาร์เอส ทำให้แฟนบอลได้ดูครบทุกนัด
อย่างไรก็ตาม ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ผู้ซื้อลิขสิทธิ์จะต้องปฏิบัติตามกฎมัสต์แฮฟ ทำให้ปัจจุบันยังไม่มีเอกชนรายใดจัดการซื้อลิขสิทธิ์มาครอบครอง ซึ่งกฎมัสต์แฮฟดังกล่าวอยู่ในประกาศกสทช.ที่ออกมาเมื่อปีพ.ศ. 2555 เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สําคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป ซึ่งกำหนดรายการทีวีที่สำคัญ ให้ออกอากาศได้เฉพาะฟรีทีวีเท่านั้น จำนวน 7 รายการที่อยู่ในกฎมัสต์แฮฟ ได้แก่ กีฬาซีเกมส์, กีฬาคนพิการอาเซียนพาราเกมส์, กีฬาเอเชียนเกมส์, กีฬาคนพิการเอเชียนพาราเกมส์, กีฬาโอลิมปิก, กีฬาพาราลิมปิก และการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
ทั้งนี้การที่รัฐบาลจะเป็นหน่วยงานหลักในการซื้อลิขสิทธิ์เพื่อถ่ายทอดสดนั้นสามารถทำได้ เพียงแต่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า)ต้องการทำธุรกิจกับภาคเอกชนมากกว่า