เอ.พี.ฮอนด้า เจ้าพ่อแม็งกะไซด์ ค่ายปีกนก เร่งพัฒนา นักบิดเยาวชน ปั้นสู่ระดับอินเตอร์ ใช้แอร์แบ็กเซฟตี้เป็นทางการครั้งแรกในไทย ยกมาตรฐานโครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม สู่ระดับโลก เส้นทางโมโต จีพี
ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า เผย ในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด ที่อาละวาดไปทั่วโลก วงการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตเองก็ได้รับผลกระทบโดยตรง ทาง เอ.พี.ฮอนด้า จึงมีแผนปรับโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ด้วยเช่นกัน
ในปีนี้ เรายืนยันจะสานต่อโครงการดังกล่าวด้วยความมุ่งมั่น เป้าหมายเพื่อให้นักแข่งไทย พัฒนาก้าวสู่รายการโมโต จีพี ให้ได้ภายในปี 2025 ด้วยการจัดแข่งขันรายการต่างๆ ต้องดำเนินตามมาตรการที่ประกาศจากภาครัฐอย่างเคร่งครัด ในส่วนการปรับเปลี่ยนรูปแบบพัฒนานักแข่ง จะยังคงเน้นยกระดับศักยภาพของนักแข่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเช่นเคย หนึ่งในนั้นคือการสร้างมาตรฐานใหม่ของชุดแข่ง ที่ติดตั้งแอร์แบ็ก อุปกรณ์นำเข้าจากญี่ปุ่น ช่วยลดแรงกระแทกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มความมั่นใจให้ผู้สวมใส่ นับเป็นครั้งแรกที่ได้ประกาศใช้ในไทยอย่างเป็นทางการ
ด้าน คุณจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผจก.ทั่วไป เอ.พี.ฮอนด้า เสริมอีกว่า ปัจจุบันนอกจากรถแข่งที่เราใช้จะเป็นมาตรฐานโลกอย่าง Honda NSF100 และ Honda NSF 250 สเปกเดียวกับรถแงในรุ่นโมโตทรี นับจากนี้ไปอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างชุดแข่งที่มีแอร์แบ็กเข้ามาเสริม จะยกระดับมาตรฐานเหมือนรายการโมโจ จีพี ตามที่ทาง FIM ประกาศให้นักแข่งทุกรุ่ต้องาวมเรซซิ่งสูทที่มีระบบความปลอดภัยดังกล่าวด้วย โดยชุดแอร์แบ็กที่เรานำเข้าจากญี่ปุ่นจะถูกสวมใส่ให้กับเด็กๆ ที่ลงแข่งขันในรายการ เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี่ และ เอ.พี.ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเล้นต์ คัพ ตั้งแต่ 2020 เป็นต้นไป
Advertisement
ขณะที่ รูปแบบของโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ในปี 2020 จะมีความเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ในโครงการ เอ.พี.ฮออนด้า อะคาเดมี่ ซึ่งจะเว้นวรรคการออดิชั่น คัดเลือกนักบิดเยาวชนทั่วประเทศออกไปก่อน 1 ปี นักบิดรุ่นจิ๋ว ที่ผ่านการคัดเลือกในปี 2019 จะได้รับการคัดเลือกโดยตรง เข้าสู่ เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี่ 2020 จำนวน 14 คน รวมกับเด็กที่ร่วมการแข่งขันในปี 2018 อีก 3 คน รวมทั้งสิ้น 17 คน เพื่อเข้าโครงการนี้อย่างต่อเนื่องในปี 2020-2021
รูปแบบการฝึกสอน จะเน้นในเรื่องเทรนนิ่งด้านต่างๆ ทั้งทักษะขับขี่ การเสริมสมรรถนะ ของร่างกาย การสร้างทัศนคติ และความมีวินัยในการเป็นนักแข่งที่ดี ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นพื้นฐานนักแข่งระดับโลก
ปกติจะมีเทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่นจาก HRC สองคนคือ ชินอิจิ อิโตะ อดีตนักบิดเวิลด์จีพีของฮอนด้า และ ทาคาชิ คาบาตะ โค้ชผู้ชำนาญด้านบริหารร่างกายสำหรับนักแข่ง แต่เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด การเดินทางเข้าประเทศไทยลำบาก จึงมอบหมายให้ “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดโมโตทูคนแรกของไทย เป็นกำลังหลักในการฝึกสอน
การแข่งขัน เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี่ 2020 จะแข่งทั้งสิ้น 7 สนาม สนามละ 2 เรซ ออกสตาร์ทสนามแรก 161-17 ก.ค.นี้ ที่ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กรุงเทพ โดย 2 สนามแรก เน้นฝึกทักษะ และความแข็งแกร่ง ส่วน 5 สนามถัดไป จะแข่งขันจริงเพื่อเก็บคะแนนสะสม
ติดตามรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอ ดรีม
fb.com/aphoandaracingth
