ทรูวิชั่นส์ ย้ำจุดยืน จบ 25 ต.ค. หากเกินกว่าไปถึงสิ้นปีต้องเซ็นสัญญาใหม่ ชี้เงิน 1,200 ล้านบาทต้องลดลง ตามจำนวนแมตช์ที่หายไป แต่หวัง 24 ก.ค. เจรจากันด้วยดี

ทรูวิชั่นส์ ออกมาชี้แจงตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เรียกสโมสรสมาชิกประชุมเมื่อ 14 เม.ย. ก่อนมีมติเอกฉันท์ปรับโปรแกรมไทยลีกไปเริ่มเดือนก.ย.63 และจบ พ.ค.64 ต่อมาทรูวิชั่นส์ ในฐานะผู้จ่ายเงินค่าสิทธิประโยชน์ ย้ำว่าให้ส.บอล ปฏิบัติตามสัญญาเคร่งครัด ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่ทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมเจรจาหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในวันที่ 24 ก.ค. นี้

นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า สำหรับลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มฤดูกาลนี้ วันที่ 14 ม.ค. สมาคมฯ ส่งโปรแกรมการแข่งขันมาให้รับทราบว่าฤดูกาลนี้จะสิ้นสุด 25 ต.ค. ต่อมาวันที่ 3 ก.พ. ทรู ส่งหนังสือยินดีที่จะจ่ายเงินรวดแรก 400 ล้านบาท แต่ขอสงวนสิทธิ์เรื่องของการเจรจาจากจำนวนแมตช์ที่ลดลงจากการลดทีมจาก 18 ทีมเหลือ 16 ทีม

จากนั้น 26 มี.ค. สมาคมฯ ส่งหนังสือแจงว่าต้องหยุดการแข่งขันเนื่องจากโควิด-19 และจะแจ้งโปรแกรมใหม่ภายหลัง ทำให้วันที่ 7 เม.ย. ทรู ส่งหนังสือไปว่าเข้าใจเรื่องระงับการแข่งขัน แต่แจ้งเพิ่มว่าถ้าเหตุการณ์กลับมาเตะยังไม่มีความชัดเจน จะยังไม่ชำระเงินในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งเราส่งหนังสือแบบนี้กับทุกลีกที่เป็นคู่สัญญาด้วย

ส่วนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่แถลงเรื่องการเปลี่ยนแปลงโปรแกรม ต้องย้ำว่าทรูวิชั่นส์ ไม่ได้รับเชิญให้ร่วมหารือด้วย การที่มี คุณขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรทรู แบงค็อก และ คุณ นันทนี วงศ์อำนิษฐกุล ในฐานะกรรมการสมาคม นั่นก็ไม่ได้เป็นตัวแทนที่เป็นทางการของทรูวิชั่นส์ ซึ่งคนที่เป็นตัวแทนคือ คุณจุลทัย ศาลิคุปต ต่อมา 22 เม.ย. สมาคมฯ แจ้งว่ามีการเปลี่ยนแปลงการแข่งขัน ทำให้ 28 เม.ย. เราส่งหนังสือกลับไปว่าเราไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนในลักษณะนี้ อยากให้ทำตามสัญญาเดิมเคร่งครัด นี่ถือว่าเป็นการทักท้วงที่ชัดเจนแล้ว

จากนั้น 8 พ.ค. สมาคมฯ ส่งปฏิทินการแข่งขันมาให้เราทราบ หากคิดเห็นอย่างใดให้ตอบกลับใน 15 วัน ซึ่งวันที่ 22 พ.ค. เราแจ้งกลับไปว่าต้องมีการหารือภายในก่อน แล้วจะมีการตอบกลับไป เพราะเราต้องมีการวางสมมติฐานที่เหตุการณ์จะเกิดต่อไป มีการประชุมผ่านบอร์ดบริหาร จึงต้องใช้เวลานาน ส่วนสมาคมฯ ไม่ได้มีการติดต่อมา

จนกระทั่งมีการถามเรื่องการจ่ายงวด 2 ทำให้วันที่ 26 มิ.ย. ตอบกลับไปว่าขอยังไม่จ่ายงวดวันที่ 1 ก.ค. เพราะการแข่งขันจัดได้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ และทักท้วงของการเตะข้ามปีด้วย ส่วนเหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นไปตามที่ปรากฏในสื่อมวลชน ดังนั้นการประสานระหว่างทรู กับไทยลีก มีสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ ตอนที่ทรู ได้ร่วมประมูลในสิทธิประโยชน์รอบใหม่ 8 ปี และเราได้รับแจ้งตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วว่าเราไม่ใช่ผู้ชนะ ซึ่งตอนที่สมาคมฯ มีการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการแข่งขัน เราถึงได้ย้ำเตือนมาตลอดว่าให้ สมาคมฯ ต้องทำตามสัญญาอย่างเคร่งครัด และทรู จะต้องไปบริหารจัดการเนื้อหาที่จะนำมาบรรจุในปี 2021

ส่วนที่สมาคมฯ เชิญทรูวิชั่นส์ ร่วมประชุมกับสโมสรในวันที่ 21 ก.ค. เราตอบกลับไปว่าทางผู้บริหารไม่สะดวกที่จะเข้าร่วมในวันดังกล่าวได้ แต่ประเด็นสำคัญ คือ ทรู เป็นคู่สัญญาสมาคม ไม่ได้เป็นคู่สัญญาอื่น ในเชิงความเหมาะสมต้องคุยกับสมาคม เท่านั้น ซึ่งอย่างพรีเมียร์ลีก เราไม่สามารถจะไปคุยกับสโมสร ลิเวอร์พูล หรือ แมนฯ ยู ได้

สำหรับการเจรจาในวันที่ 24 ก.ค. ในจุดยืนของเราต้องย้ำว่า การแข่งขันไทยลีกต้องจบฤดูกาล 25 ต.ค. เหตุผลเพราะเราเซ็นสัญญามา 4 ปี ด้วยความเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย คือเริ่มเดือนก.พ. และจบในปลายเดือนต.ค. แต่ปีนี้ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หลายอย่างเปลี่ยนไป แต่ทรู มองว่ามีแนวทางให้จบในวันดังกล่าวตั้งแต่แรก

แต่พอมาถึงวันนี้ที่ทำให้กำหนดเวลากระชั้นมา แล้วถ้าไม่จบในวันที่ 25 ต.ค. ทางทรู มีความสัมพันธ์อันดีกับสมาคมฯ มานานกว่า 20 ปี จึงเปิดกว้างที่จะเจรจาในรูปแบบสัญญาใหม่ จะถ่ายกี่แมตช์ คิดราคาอย่างไร ซึ่งจะเป็นประเด็นที่จะคุยในวันที่ 24 ก.ค.นี้ด้วย ส่วนถ้ามีการเตะข้ามปี เราจะสละสิทธิ์การถ่ายทอดสด สมาคมฯ สามารถนำสิทธิ์ให้เจ้าอื่นได้

ส่วนเงินสนับสนุนปีนี้ 1,200 ล้านบาท จะต้องมีการลดลงจากจำนวนแมตช์ที่หายไป เพราะ ทรู เป็นบริษัทที่อยู่ในตลอดหลักทรัพย์ มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ รายกลาง รายย่อย การบริหารจัดการจึงเป็นเรื่องสำคัญ ต้องอธิบายได้และรักษาผลประโยชน์ให้ผู้ถือหุ้นที่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ทรูวิชั่นส์ อยากให้เจรจาออกมาแบบด้วยดีทั้งสองฝ่าย การจะบอกว่าให้ทุกคนได้หมด ยกเว้นทรูวิชั่นส์ คงจะเป็นไปไม่ได้ หรือจะให้ทรูวิชั่นส์ ได้ฝ่ายเดียว คงจะไม่ใช่แบบนั้นด้วย

วันนี้ โควิด-19 ทำให้ทุกฝ่ายรับผลกระทบกันหมด ตั้งแต่ สมาคมฯ สโมสร นักเตะ รวมถึงทรู ด้วย เพราะในช่วงที่ไม่มีการแข่งขัน เราก็สอบถามทุกลีกจะกลับมาได้เมื่อไหร่ หาซื้อคอนเทนต์เพิ่ม ดังนั้น ถ้า ทรู กับ สมาคมฯ ถอยคนละก้าว เจ็บคนละนิด ก็น่าจะจบได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน