นายกอีสปอร์ต แจงสรุป ห้ามสตรีมเกม2ชั่วโมง-แบน FPS คือเฟกนิวส์

 

หลังจากมีกระแสออกมาอย่างหนักเรื่องร่างกฎหมายเกี่ยวกับเกม ซึ่งจะห้ามเหล่าสตรีมเมอร์ สตรีมเกมเกิน 2 ชั่วโมง รวมถึงจะมีการแบนเกมแนว ยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งหรือ First-Person Shooter (FPS) ก่อนจะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง สตรีมเมอร์ชื่อดัง เข้าร่วมประชุมในเรื่องนี้

ล่าสุด นายสันติ โหลทอง นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ต เผยกับข่าวสดว่า หลังจากที่ได้เข้าประชุมกรรมาธิการ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้ง กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีความคิดที่จะแบน และตนเองก็อยู่ในห้องประชุมนี้มา 2 ปี ไม่เคยเห็นมีใครยกเรื่องนี้มาพูดถึง ก็สรุปกันได้ว่าเรื่องนี้เป็น เฟกนิวส์ และถูกปัดตกไปเรียบร้อย

 

“เมื่อสรุปกันได้แล้วว่ามันเป็นเฟกนิวส์ ก็ไม่รู้จะพูดกันต่อทำไม สรุปแล้วคือจะไม่มีการแบน FPS สามารถจัดแข่งขันได้เพียงแต่ต้องอยู่ภายใต้ พรบ.เรตติ้งเกม ของกระทรวงวัฒนธรรม อย่างไรก็ตามวันนี้ พรบ.เรตติ้งเกม ยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากคณะกรรมการที่ร่างพรบ.ชุดนั้นยังร่างไม่เสร็จ”

 

“ส่วนเรื่องห้ามสตรีมเกม 2 ชั่วโมง ยิ่งห้ามไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง หรือต่อให้มันไม่ใช่เฟกนิวส์ กฎหมายนี้ก็จะทำให้กระทบทั้งประเทศ เพราะทุกวันนี้เราใช้เครื่องมือบนออนไลน์ ทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็นการค้าขายสินค้า ในวงการสื่อ ในหน่วยงานต่างๆ ฯลฯ หรือจะบอกว่าสตรีมอย่างอื่นได้ แต่สตรีมเล่นเกมไม่ได้ แล้วอะไรจะเป็นตัวชี้วัด ทำไมห้ามแต่เกม พอเราขอเหตุผลเท่านั้น ก็เลยชัดเจนว่า การสตรีมเกม คืออาชีพ ไปปิดกั้นไม่ได้ ซึ่งทางคณะกรรมการก็รับทราบว่า อันนี้คือสิ่งหนึ่งที่กระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คนไทยหลายล้านคน มีความกระตือรือร้นที่จะไปทำงานด้านนี้”

 

“อีกเรื่องคือไม่ว่าจะเป็นสตรีมเกมส์ หรือขายของ ทุกอย่างเสียภาษี เพราะการจะซื้ออะไรมาก็มี VAT มาแล้ว หรือถ้ามีสปอนเซอร์มา สปอนเซอร์ก็หัก ณ ที่จ่าย ปลายปีถ้ารายได้เข้าเกณฑ์ ก็ต้องเสียภาษีอีก แล้วมันจะผิดตรงไหน ทุกอย่างนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ข่าวลือทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถูกปัดตกไปหมดเลย และจะไม่มีการหยิบเอามาพูดถึงอีกแล้ว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน