บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยังยิ้มได้ มั่นใจ บรรดาสปอนเซอร์มากมายพร้อมโดดเข้าอุ้ม ฟุตบอลไทย รอเพียงรายละเอียดลงตัวก่อนเท่านั้น
จากกรณี สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยการคาดการณ์ รายรับ-รายจ่าย ของสมาคมฯ ซึ่งได้คาดการณ์ว่า ถ้าหากสถานการณ์เป็นปกตินั้น สมาคมจะต้องขาดทุนถึง 2 ล้านบาทเศษ แต่การประมาณรายรับในครึ่งปีหลัง ที่ต้องได้ถึงกว่า 1,000 ล้านบาท อาจจะไม่สามารถเป็นไปได้ตามตัวเลขดังกล่าว ทั้งนี้ด้วยสาเหตุเนื่องมาจากการถอนตัวของสปอนเซอร์นั้น

ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เผยความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า สมาคมฯเองก็ยังไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าเงินรายรับในครึ่งปีหลังที่สมาคมจะได้นั้น จะได้เท่าไหร่ เพราะว่าสปอนเซอร์หลายแห่งก็ยังไม่มีการยืนยันเข้ามา เนื่องจากตามหลักแล้วการจ่ายเงินของสปอนเซอร์ จะเป็นไปตามวงรอบของบริษัทนั้นๆ ซึ่งถ้ายังมาไม่ถึงก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะจบลงเช่นไร

“เงินพันกว่าล้านบาทนั้น เป็นเพียงการคาดคะเนเอาไว้ในสถานการณ์ที่ปกติ สมาคมควรจะมีรายรับประมาณนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงกำหนดดีล และก็เชื่อว่าทุกคนนั้นคงจะอ้างเหตุผลเรื่องของโควิด-19 กันแทบทั้งสิ้น ขณะที่เงินตรงนั้นก็มีส่วนที่เป็นของทรูวิชั่นส์ ที่จะหายไปแน่ๆ แล้ว 800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือก็ยังลูกผีลูกคน แต่เชื่อว่าจะเข้ามาขอเจรจาแน่นอน แต่สมาคมก็พร้อมจะพูดคุยด้วยเช่นกัน”
นายกสมาคมฟุตบอลไทย กล่าวอีกว่า

“ส่วนกรณีข้อคำถามว่า สมาคมจำเป็นต้องหารายได้เท่าไหร่ เพื่อให้การแข่งขันสามารถดำเนินไปจนจบได้นั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตอนนี้สิ่งที่ต้องรับผิดชอบคือ การผลิตสัญญาณถ่ายทอดสดให้กับทรูวิชั่นส์ ที่จ่ายเงินก้อนแรก 400 ล้านบาทมาแล้วให้จบ ส่วนหลังจากวันที่ 25 ตุลาคม จะต้องดูต่อไปว่าคนที่มาใหม่นั้นจะมีแนวคิดอย่างไร จะถ่ายทอดสดทุกนัดหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่สามารถตอบได้”

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวในตอนท้านว่า ตอนนี้นอกเหนือจากกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ ก็มีการคุยกับหลายๆ แห่งเอาไว้ แต่ว่ายังไม่ได้มีการยืนยันตัวเลขที่จะเข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ยังเหลือเวลา ยืนยันว่า จะมีเงินเข้ามาแน่นอน เพราะทุกคนที่ได้คุยกัน พร้อมให้ความช่วยเหลือทั้งสิ้น

ส่วนความเคลื่อนไหว การจัดการแข่งขัน รายการระดับนานาชาติ หลังจากที่สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ตัดสินใจเลื่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020” จากปลายปีนี้ออกไปเป็นปีหน้า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลาแข่งขันนั้น

ล่าสุด รายงานว่า ศึกซูซูกิคัพ มีแนวโน้มสูง ที่เอเอฟเอฟ จะวางให้มาเตะกันในช่วงเดือน เมษายน-พฤษภาคมปีหน้า เพราะหากเป็นช่วงก่อนหน้านั้นคือ เดือนมีนาคม สถานการณ์ของแต่ละประเทศ จากผลกระทบโควิด-19 คงไม่แตกต่างจากช่วงเวลาแข่งเดิมนัก

หลังจากนั้นในเดือนมิถุนายนปีหน้าคาดว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) น่าจะจัดคิวแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่เลื่อนมาไปลงช่วงนั้น หรือหากจะไปปลายปี ก็มีมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม รอแข่งอยู่

ทั้งนี้ ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาลปัจจุบัน จะแข่งตั้งแต่เดือนกันยายนปีนี้ ถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า ดังนั้นหากศึกฟุตบอลซูซูกิคัพ ไปเตะช่วงเมษายน-พฤษภาคม ก็อาจทับซ้อนไทยลีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน