รองประธานไทยลีก อย่างนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ออกมาเรียกร้องความชัดเจนจากศบค. เรื่องจำนวนคนเข้าดูฟุตบอลว่าต้อง 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุหรือไม่เกิน 4,000 คน

รองประธานไทยลีก นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานบริหารบริษัท ไทยลีก จำกัด กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าไทยลีกอนุญาตให้กีฬาฟุตบอลแข่งขันแบบเปิดให้มีคนดูได้ แต่จุไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่เกิน 4,000 คน รวมถึงการห้ามร้องตะโกนส่งเสียงเชียร์ภายในสนามเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ประกาศของไทยลีกหรือสมาคมฟุตบอล เพราะไม่มีอำนาจ ทั้งหมดเป็นข้อกำหนดมาจากศบค.

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

นายกรวีร์ กล่าวว่า “ก่อนอื่นผมต้องเรียนให้เข้าใจตรงกันอีกครั้งว่าทั้งสมาคมฟุตบอล และบ.ไทยลีก ไม่มีอำนาจการออกระเบียบการแข่งขันแบบเปิดให้มีแฟนบอลเข้าชมในสนาม แนวทางการปฏิบัติทั้งหมดเป็นของศบค.โดยตรง ซึ่งเราพร้อมให้ความร่วมมือ แต่มี 2 เรื่องที่ผมยังต้องขอความชัดเจน เพื่อให้เรานำไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง อย่างแรกคือการห้ามส่งเสียงเชียร์หรือตะโกนร้องเพลง คงเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับแฟนบอลชาวไทย แต่เรื่องนี้พอเข้าใจได้ด้วยมาตรการรักษาระยะห่าง การจะรวมกลุ่มตีกลองร้องเพลง หรือตะโกนเชียร์คงทำไม่ได้อยู่แล้ว และคงไม่เหมาะสม เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในสนามมวยที่มีการตะโกนเชียร์จนขาดการรักษาระยะห่าง ประเด็นนี้ไทยลีกเห็นควรยึดปฏิบัติ”

“ประเด็นที่สองที่มีข่าวออกมาว่าเดิมทีให้แฟนฟุตบอลเข้าสนามได้ไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม จนทุกวันนี้มีกระแสข่าวว่าให้เข้าได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม แต่มีติดอีกนิดหน่อยตรงที่ว่าต้องไม่เกิน 4,000 คน ต่อแมตช์ เรื่องนี้ไทยลีกต้องการความชัดเจนมากกว่านี้ว่าจะให้เข้าได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุ หรือจะให้เข้าไม่เกิน 4,000 คนต่อแมตช์กันแน่ เพราะกีฬาฟุตบอลไม่เหมือนกับกีฬาชนิดอื่นจำนวนแฟนกีฬามากกว่ากีฬาอย่างอื่นหลายเท่า ที่สำคัญแต่ละสนามมีขนาดความจุไม่เท่ากัน”

“ถ้าสนามใดมีความจุ 8,000 ที่นั่ง การให้โควตา 50 เปอร์เซ็นต์เท่ากับว่าแฟนคลับสามารถเข้าสนามได้ 4,000 คน แต่มีอีกหลายสนามที่มีความจุมากกว่านี้ยกตัวอย่างเช่นสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ของนครราชสีมา เอฟซี มีความจุได้ถึง 25,000 ที่นั่ง หากนับเป็นครึ่งหนึ่งคือ 12,500 คน เช่นเดียวกับสนามของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จุได้ถึง 30,000 คน อย่างน้อยต้องมีแฟนบอลเข้าชมได้ถึง 15,000 คน การจะยึดเรื่องแต่ละแมตช์เข้าได้ไม่เกิน 4,000 คนกับบางสนามจึงไม่เหมาะสม เพราะนั่นหมายความแต่ละคนอาจจะต้องนั่งห่างกันถึง 5-6 เมตรเลยทีเดียว”

“สิ่งที่เราเรียกร้องคืออยากให้ยึดเพียงจำนวนเปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม หากทีมใดสนามมีความจุมากกว่าย่อมสามารถเปิดให้แฟนบอลของตัวเองเข้าชมได้มากกว่า แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละสโมสรเองด้วยว่าจะจัดการกับการรักษาระยะห่างตามมาตรการของศบค.ได้หรือไม่ หากบางทีมสนามมีความจุมาก แต่ไม่มีศักยภาพมากพอในการจัดการการรักษาระยะห่างต้องขอลดจำนวนคนเข้าดูในสนามได้เช่นกัน จะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของความจุต้องดูที่ความสามารถในการจัดการของตัวเองเป็นหลัก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน