คนมวยร่วมสมัย รำลึกด้วยอาลัย แม่ย่านางแห่งค่าย ปทุมวดี

การจากไปของ คุณแม่ ปทุมวดี โสภาพรรณ หรือ กาณฏ์มณี เค้ามูลคดี ภรรยาของ คุณพ่อ รอง เค้ามูลคดี อดีตนักพากษ์นักแสดงรุ่นอาวุโส และยังเป็นมารดาของ “ยุ้ย” ปัทมวรรณ ถือเป็นข่าวเศร้าของการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ไม่เพียงแต่คนในครอบครัว ทั้งยังรวมถึงแฟนๆวงการบันเทิงที่เคยติดตามผลงานมาอย่างยาวนานจำนวนไม่น้อย

แต่จะมีใครพอจดจำได้บ้างไหม ??

คุณปทุมวดี โสภาพรรณ์ เมื่อครั้งท่านยังสาว ช่วงเข้าสู่วงการบันเทิงใหม่ๆ ในแวดวงคนกีฬาเธอก็มีสายเลือดนักสู้อยู่ทุกอณู เคยคลุกคลีวงการมวยไทย ถึงขนาดเป็น”แม่ย่านาง”เจ้าของค่ายมวย ที่คุณพ่อตั้งชื่อเป็นมงคลว่า “ค่ายปทุมวดี” อีกด้วย

ชื่อเดิมของเธอคือ ปทุมวดี พุ่มสว่าง เกิดเมื่อปี พ.ศ.2491 พื้นเพเป็นคนบ้านย่านหนองจอก เป็นลูก “จ่าเอิบ พุ่มสว่าง” จบการศึกษาโรงเรียนมัธยมต้นหนองจอก มีพี่น้องด้วยกัน 3 คน คือจินตนา(พี่สาว) และ ทัศยุ (น้องชาย) เป็นชาวมุสลิมนับถืออิสลาม แต่ภายหลังหันมานับถือพุทธ เมื่อแต่งงานกับ รอง เค้ามูลคดี ดาราตลก และนักพากษ์คนดัง เจ้าของเงาเสียง พระเอกอมตะตลอดกาลอย่าง สมบัติ เมทะนี

คุณปทุมวดี เริ่มเข้าวงการบันเทิง เริ่มจากอาชีพนักร้องเมื่อวัยสาวแตกพานได้เพียง 17 ปี จากนั้นคล้อยหลังราว 5-6 ปี ที่บ้านก็มีการตั้งค่ายมวยโดยคุณพ่อให้ชื่อมงคลนามว่า “ค่ายปทุมวดี” มีเด็กละแวกบ้านย่านหนองจอกนั่นแหละ ที่เก็บเข้ามาปั้นสรรสร้างกันจนโด่งดัง จากการยืนยันของ คุณสุนัย เกียรติอัฌชาสัย สื่ออาวุโสรุ่นเก๋า ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อยกว่าใครในยุคนี้ ขยายความจำได้ว่า ช่วงยุคราวๆ 50 ปีก่อน มีมวยดังระดับแนวหน้าขึ้นหลายคน อาทิ สุริยา ปทุมวดี และ เสรี ลูกหนองจอก ที่สร้างจากสร้างชื่อเติบโตมาจากค่ายปทุมวดี แต่น่าเสียดายที่กาลเวลาเป็นตัวฆ่าความทรงจำในอดีต ปัจจุบันค่ายมวยแห่งนี้ปิดตัวลงไปนานแล้วหลายสิบปี

สุริยา ปทุมวดี อดีตนักมวยไทย

แต่หากรำลึกนึกถึงความหวัง เฉพาะมวยดังประดับบารมีเห็นจะมีก็แต่ “สุริยา ปทุมวดี” มวยดีมีแววแต่ไม่ถึงแชมป์ ได้รับการยืนยันจากเฟซบุ๊ก หนองจอก ไม่กระจอก ของ “ลุง วินัย” บันทึกยืนยันไว้ด้วยสาเหตุว่า ความเก่งกาจของแกขนาดแค่ตอนซ้อม พอแชมเปี้ยนมาเห็นเข้าจึงไม่กล้าเลือกเอามาเป็นผู้ท้าชิง !! แต่ความภูมิใจยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น คือการได้ขึ้นสังเวียนผ้าใบแล้วได้รับพระราชทานพวงมาลัยจาก เจ้าชาย คาล กุสตาฟ มกุฏราชกุมารแห่งสวีเดน หรือ สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน กษัตริย์องค์ปัจจุบันของสวีเดน เป็นเกียรติประวัติเชิดชูวงศ์ตระกูลเล่าสู่กันฟังชั่วลูกสืบหลาน

สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน ครั้งเสด็จเยือนประเทศไทย

แต่ถ้าจะเอ่ยถึงนักมวยที่ได้เข็ดขัดแชมเปี้ยนมาประดับบารมีค่ายปทุมวดี ต้องยกให้ “เสรี ลูกหนองจอก” แชมป์ 3 เส้น เวทีมาตรฐานราชดำเนิน รุ่นไลต์ฟลายเวต ผู้เคยครองเสื้อสามารถคนแรกของประเทศไทย รุ่นแปดขุนกระบี่ ที่สร้างชื่อให้คนหนองจอกโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งประเทศ

มาถึง คุณสุวรรณา ศรีสงคราม บก.นิตยสารแชมป์ หนังสือหมัดมวยที่เก่าแก่อีกฉบับของเมืองไทย ซึ่งเธอเป็นเพื่อนสนิทกับ คุณปทุมวดี และ คุณทัศยุ สองพี่น้องเจ้าของค่ายมวยแห่งนี้ รื้อฟื้นถึงบรรยากาศความหลังช่วงราวๆ พ.ศ.2514-2520 สมัยนั้นว่า

“ครอบครัวนี้เค้าทั้งสวยทั้งหล่อกันทั้งบ้าน วงการมวยยุคสมัยนั้น ถ้าจะเอ่ยถึงเรื่องผู้หญิงเข้าเวทีก็ต้องยกให้คุณป้าองุ่น เอี่ยมภิญโญ เจ้าของค่ายมวยผู้เคยสร้าง จอมเตะบางนกแขวก อภิเดช ศิษย์หิรัญ ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก คุณปทุมวดีตอนนั้นเธอยังเป็นสาวและเพิ่งเป็นดาราใหม่ๆ เข้าวงการมวยก็เพราะมีค่ายมวยเป็นของตัวเองและให้น้องชายช่วยดูแล ที่สำคัญ ผู้การบรรจุ อ่องแสงคุณ โปรโมเตอร์ศึกมุมน้ำเงิน เวทีราชดำเนิน เจ้าของฉายา”ผู้การนักรัก”ท่านเป็นผู้ชักชวนเข้าเวที เมื่อมีสาวๆสวยๆเข้ามาเชียร์มวย ก็ยิ่งสร้างบรรยากาศในตอนนั้นให้คึกคักขึ้นไปใหญ่ เพราะการจัดมวยไทยสมัยย้อนหลังไปเมื่อ 40-50 ปีก่อนนั้นถือว่าเป็นยุคทองที่มีมนต์ขลัง ใครเป็นแชมเปี้ยนต้องถือว่าของจริงเก่งจริง และนานๆครั้งน้อยรายจะมีสาวๆสวยๆคนดังย่างกรายเข้ามาในเวทีมวยระดับมาตรฐานของเมืองไทย”

“สำหรับคุณปทุมวดีนั้น ไม่ใช่สวยเพียงอย่างเดียว เธอยังเป็นคนเก่งมีเสน่ห์ด้วย ตอนหลังเมื่องานบันเทิงเยอะขึ้น ก็เลยต้องห่างๆวงการมวยออกไป แล้วให้น้องชายดูแลจนสุดท้าย ก็เลิกราวงการและปิดค่ายมวยไปในที่สุด” คุณสุวรรณา ซึ่งถือเป็นหญิงเก่งร่วมยุคสมัย และผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาพร้อมกันกล่าวทิ้งท้ายด้วยความอาลัย

สำหรับคุณปทุมวดีนั้น เป็นที่ทราบกันดี หลังแต่งงานกับ รอง เค้ามูลคดี ครองรักยืนยาวจนคนวงการบันเทิงยกย่องให้เป็นคู่รักแบบอย่างที่ควรค่าแก่การชื่นชม การจากไปของเธอในวัย 72 ปี ด้วยอาการป่วยต้องนอนติดเตียงมานานถึง 7 ปีเต็ม ไม่เพียงยังความโศกเศร้าให้แฟนๆแวดวงบันเทิงทั่วไป ทว่าในอดีต แฟนมวยผู้ได้ทันร่วมยุคสมัยย่อมพลอยอาลัยใจหาย ถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญอีกท่านของวงการกีฬาไปด้วยเช่นกัน ในฐานะผู้เคยผลักดันนักมวยมากมาย สร้างแชมเปี้ยนของประเทศไทย รวมทั้งตัวท่านเองยังเคยสร้างกระแสปลุกค่านิยมในสังคมมวยได้ตระหนักว่า

“….ผู้หญิงเก่ง ที่เพียบพร้อมคุณสมบัติ ทั้งยังมีจิตใจนักสู้ที่เหี้ยมหาญนั้น หากได้แสดงออกแล้วไซร้ ก็ไม่แพ้ชายอกสามศอกด้วยเช่นกัน”