หลังจาก “ผีแดง” แมนฯยูไนเต็ด โดน สเปอร์ ของ โชเซ่ มูรินโญ บุกมาถล่มยับคาบ้าน 1-6 ในฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก โดยเกมนี้ อองโธนี มาร์กซิยัล นักเตะแมนฯยู เสียท่าตบะแตกไปตบเข้าที่คอของ เอริก ลาเมร่า ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนในเกมนี้ ส่งผลให้แมนฯยู พ่ายเกมในบ้าน สองนัดติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 ของสโมสร นับตั้งแต่ปี 1986/1987
นอกจากนี้การเสีย 6 ประตู ถือเป็นเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ ก่อตั้งสโมสร โดยเกมแรก แพ้ เซาแธมป์ตัน 3-6 ในปี 1996 และ เกมสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีก่อน ในเกมแพ้ให้ แมนฯซิตี้ 1-6 เมื่อปี 2011
โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ สเปอร์เผยหลังเกมว่า “แมนฯยูไนเต็ดไม่ได้แพ้บ่อยนัก การแพ้ 6 ประตูไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย มันเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ แต่มันก็แค่ 3 แต้ม
“ใบแดงในเกมนี้ ผมไม่เห็น บางทีผมอาจจะไปดูย้อนหลัง แต่พวกเขาควรจะจบการแข่งขันโดยเหลือนักเตะแค่ 8 คนด้วยซ้ำ ถ้าจะมีใครต้องร้องไห้เพราะ VAR มันจะเป็นทอตแน่ม และ คนที่ไม่เคยต้องร้องให้เพราะ VAR เลย คือ แมนยูไนเต็ด ต่างหาก ชัยชนะเกมนี้ผมรู้แค่ว่านักเตะของผมทำได้ดีมาก”
นอกจากนี้ มูรินโญ่ ยังได้ทีตอกกลับเสียงวิจารณ์ที่มักถูกมองว่าเป็นโค้ชที่เล่นเป็นแต่เกมรับว่า “ถ้าเราใช้โค้ชที่เน้นรับมาปั้นเกมรุก เรายิงได้ 5,6,7 ลูก แต่ถ้านักเตะของเราได้โค้ชเกมรุกเข้ามาพวกเขาอาจจะยิงได้สัก 10,11,12 ลูกก็ได้” มูรินโญ่ กล่าว
ด้าน โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือผีแดงผู้พ่ายแพ้ย่อยยับในเกมนี้เปิดใจว่า “นี่คือวันที่แย่มากๆสำหรับผม ในฐานะผู้จัดการทีม เราเริ่มต้นได้ดีมากๆ แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็แย่ลงเราถูกนำ 1-2 เราคงไปโทษการถูกไล่ออกไม่ได้ทั้งหมด ฟอร์มการเล่นของเราแย่มากๆ เราคงต้องกลับไปซ่อมแซมทุกอย่างในการซ้อม และแก้ไปถึงสิ่งที่อยู่ในหัวนักฟุตบอล หรือ ทัศนคติต่างๆนั่นเอง”
