เปาอนุสรณ์ – คณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ สั่งแบน “เปาเบิร์ด” อนุสรณ์ แสงเนตร เชิ้ตดำไทยลีก 3 เป็นเวลา 1 ปี หลังจากลงทำหน้าที่ในเกมเปิดสนามไทยลีก 3 โซนกรุงเทพฯ คู่ นนทบุรี ยูไนเต็ด เสมอ พราม แบงค็อก 1-1 เมื่อวันที่ 3 ต.ค.63 โดยมีข้อร้องเรียนจาก พราม แบงค็อก 4 ข้อคือ

1 พูดคำหยาบ (อวัยวะเพศชาย) และท้าทายใส่นักกีฬาสโมสรพราม แบงค็อก ตลอดเวลา
2. พูดคุยกับนักกีฬาสโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด ว่า “ใจเย็นๆ เดี๋ยวกูเป่าโทษให้”
3. ตะคอกใส่นักกีฬา พราม แบงค็อก ว่า “มึงไปร้องเรียนเลย กูไม่กลัวมึงหรอก”
4. ได้พูดติดต่อกับผู้ช่วยผู้ตัดสินว่าอย่าพึ่งยกป้ายทดเวลา ในขณะที่หมดเวลาการแข่งขันไปแล้ว โดยที่นักกีฬาของ พราม แบงค็อก ได้ยินกันชัดเจน

ล่าสุด “เปาเบิร์ด” อนุสรณ์ ไลฟ์สดชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง ว่า “ก่อนอื่นเลยต้องขอยืนยันว่าผมไม่ได้รู้จักกับทั้งสองทีมเป็นการส่วนตัว เพราะฉะนั้นในการทำหน้าที่ผมเป็นกลาง 100 เปอร์เซ็นต์

โดยเหตุการณ์ในวันนั้นเริ่มขึ้นในครึ่งหลัง พอเป่าเริ่มเกมเล่น 2 นาที ผู้ช่วยผู้ตัดสินข้างสนาม พูดกับผมนาฬิกาบนสกอร์บอร์ดไม่ตรงกับพวกเรา ผมจึงบอกให้ผู้ตัดสินทุกคนยึดถือนาฬิกาของผู้ตัดสินเป็นหลัก เพราะเราไปแก้บนสกอร์บอร์ดไม่ได้ ก่อนจะเริ่มตัดสินต่อไป

เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นในนาที 90+4 ซึ่งคือนาทีสุดท้ายของการทดเวลา มีผู้เล่นพราม กระโดดกระแทกหลังของผู้เล่น นนทบุรี เมื่อผมเห็นว่าเป็นการกระทำผิด จึงเป่าให้ฟาวล์

แต่ตอนนั้นผู้เล่นหมายเล่น 13 ของพราม ซึ่งเป็นกัปตันทีม ได้พาเพื่อนๆ มารุมล้อม ไม่ยอมให้ผู้เล่น นนทบุรี ตั้งบอลเล่นได้ ผมเลยสั่งให้ถอยถึง 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ถอยกัน

ซึ่งแนวทางปฏิบัติคือ ต้องหาตัวต้นเรื่อง 1 คน ผมเลยให้ใบเหลือง เบอร์ 13 เนื่องจากไม่ถอยไปในระยะกำหนด และหลังจากให้ใบเหลืองไป ผู้เล่นหมายเลข 13 ก็มาต่อว่าผมว่า เห้ย “มีตาหรือเปล่า ให้ใบเหลืองได้ไง” ผมเลยชี้แจงไป แต่หลังจากนั้น หมายเลข 20 ทีมพราม ก็วิ่งมาชาร์จหาผม พูดคำหยาบคายใส่ ผมเลยให้ใบเหลืองอีก 1 ใบ เนื่องจากคัดค้านการตัดสิน

หลังจากผมก็เคลียร์กำแพงได้ พอจัดกำแพงเสร็จ ทีมนนทบุรีเปิดเข้าไป ซึ่งถ้าผู้รักษาประตูรับได้ผมก็จะเป่าหมดทันที แต่บอลหลุดมือ แล้วมีผู้เล่นนนทบุรี พุ่งเข้าไปหมดเป็นประตูตีเสมอ แต่หลังจากโหม่งแล้วผู้เล่นนนทุบรี ลอยไปกระแทกกับผู้รักษาประตู พราม ทำให้ผู้เล่นพรามไม่พอใจว่าทำไมไม่ฟาวล์ แต่ด้วยวินิจฉัยของผมคือ นนทบุรี ถึงบอลก่อนจะกระแทกกัน แล้วพอเอาลูกมาเขี่ยใหม่ผมก็เป่าหมดเวลาเพราะมันเลยทดเวลาบาดเจ็บมาแล้ว เลยเป็น 2 เหตุการณ์ติดต่อกัน

จากนั้นเมื่อตั้งแถวเพื่อออกจากสนาม นักเตะพรามได้รุมเข้ามา ตะโกนด่าผมด้วยคำหยาบคาย ทั้งที่ผมเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็เป่าเป็นกลางมาตลอด ผมมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีเลือดเนื้อและจิตใจ ยอมรับว่าก็หลุดเลยสวนไปว่า “ -ึงจะด่าอะไรนักหนาเนี่ย”

และเมื่อผมเดินไปถึงริมเส้นสนาม ก็มีสต๊าฟโค้ชพราม ที่เดินมาสอบถาม ผมเลยอธิบายไป แต่อธิบายแล้วก็ไม่จบ มันทำให้ผมเริ่มไม่ไหวเลยบอกเขาไปว่า “ถ้าผมผิด ไลฟ์สดมี พี่ไปทำเป็นคลิปมา แล้วเอามาฟ้องที่สมาคมฯ ถ้าผมผิด พี่ฟ้องผมเลย”

แต่ระหว่างที่เดินออกจากสนาม มีผู้เล่นสำรองของทีมพราม เดินมาด่าอีกว่า “ไอ้เ-ีย มึงเป่าเ-ียแบบนี้ เดี๋ยวจะร้องเรียน -ึง ให้เละเลย” ผมเลยบอกไปว่า “เออ -ึงฟ้องไปเลย ไม่กลัว -ึง หรอก”

ช่วงเวลานั้นหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่ให้ใบแดง เพราะให้ได้ แต่ผมคิดว่าถ้าให้ไป มันจะเป็นอันตรายกับคณะทีมงานผู้ตัดสินหรือเปล่า ผมอาจจะโดนลอบทำร้ายหรือเปล่า อีกอย่างถ้าน้องๆผู้ตัดสินทีมงานนี้ต้องไปตัดสินให้ทีมพราม อีก ก็จะเป็นอันตราย ซึ่งเรื่องราวในวันนั้น เป็นประมาณนี้”

“เปาเบิร์ด” อนุสรณ์ เผยอีกว่า “สำหรับการร้องเรียนของทีมพราม 4 ข้อไปถึงสมาคมฯฟุตบอล ผมกล้าพูดเลยว่าทีมพราม แต่งแต้ม ป้ายสีผมเกินจริง อย่างข้อ 1. ถามว่าในการตัดสินจริงๆ ใครจะกล้าให้ (อวัยวะเพศชาย) นักกีฬาตลอดเวลา ถ้าเป็นอย่างนั้นจะคุมเกมได้หรอ นักกีฬาจะยอมได้หรอ คิดแบบตรรกะคนโง่ๆนะ ซึ่งคณะกรรมการได้ถามว่าผมพูดจริงไหม ผมก็ยอมรับว่าพูดตอนออกจากสนาม ด้วยความที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งโดนด่า เลยหลุด แต่จะบอกว่าผมด่าตลอดเวลามันไม่ใช่

ส่วน ข้อ2. ที่บอกว่าผมพูดคุยกับนักฟุตบอลนนทบุรีว่า ใจเย็นๆ เดี๋ยวกูเป่าโทษให้ นั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่าง 80-85 ถ้าจำไม่ผิด ผู้เล่นหมายเลข 4 นนทบุรี เข้ามากดดันผมเนื่องทีมตามหลังอยู่ ด้วยคำพูดที่ว่า “เห้ย จารย์ ที่นี่บ้านผมนะ จะไม่ช่วยกันเลยหรอ” ผมเลยตอบว่า “จะให้ช่วยอะไร จะให้เป่าจุดโทษเลยหรอ”

ซึ่งขณะนั้นมี ผู้เล่นพรามอยู่ข้างๆ เลยตะโกนว่า “จะขอจุดโทษกันง่ายๆขนาดนี้เลยหรอวะ” ผมเลยเข้าไปชาร์จตัวเลยว่า “มันไม่ใช่จุดโทษ แล้วพี่จะเป่าได้ไง” หลังจากนั้น น้องเลยกลับไปเล่นต่อ ซึ่งตรงนี้ผมไม่ได้พูดลอยๆ ผมมีคลิปเสียงที่ผู้เล่นนนทบุรี ยืนยันว่าสิ่งที่เล่ามาเป็นความจริงและพร้อมเป็นพยานให้ได้

ขณะที่ ข้อ 3 เรื่องท้าทายกับผู้เล่นพราม ให้ไปร้องเรียน ซึ่งอันนี้ผมยอมรับตามเรื่องราวที่เล่า ข้อ 4. ที่บอกว่าผมบอกผู้ช่วยว่าอย่าเพิ่งยกเวลา ทำผมอึ้งเลย เพราะอย่างที่บอกว่าเวลาบนสกอร์บอร์ด กับนาฬิกาผู้ตัดสินไม่ตรงกัน อีกทั้งตามกฎผู้ตัดสินต้องยกป้ายทดเวลาในนาทีสุดท้ายของแต่ละครึ่ง ซึ่งทั้งหมดแล้วหลังจากชี้แจงกับสมาคม ปรากฏว่าผมผิดจริง 2 ข้อคือ เรื่องคำพูด แต่เรื่องการตัดสินในสนามผมถูกต้องหมดทุกประการ

“เปาเบิร์ด” อนุสรณ์ เผยต่อว่า “คณะกรรมการให้ผมยื่นอุทธรณ์ได้ เกี่ยวกับบทลงโทษ 1 ปี แต่อยากแบนก็แบนไป ผมไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้ว ความจริงผมก็อยากเลิกอยู่แล้ว ปีนี้ก็ตั้งใจจะเป่าเป็นปีสุดท้าย ขอบอกไว้เลยว่าผมไม่มีความจำเป็นต้องไปรับสินบน หรือส่วยจากใคร ผมมีการงานมั่นคง เมียให้ทำงานวันละ 100 ชีวิตแฮปปี้ดี และถามว่าโทษ 1 ปีหนักไหม ถือว่าหนักมาก

ไหนๆ ก็หักแล้วขอพูดเลยละกันว่า หากเป็นผู้ตัดสินที่เป็นเด็กเขาตัดสินผิดยังไง ต่อให้เปลี่ยนผลตัดสิน เต็มที่ก็โดนโทษแค่ 3 เดือน แต่ผมเถียงกับผู้เล่นหลังเกม ผมโดน 1 ปี เพราะฉะนั้นอยากทำอะไรก็ทำกันไปเลย ผมเหนื่อยมาก

“ในวันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม ผมจะเข้าไปแจ้งความกับสื่อที่ลงข่าวบิดเบือนความจริง เอารูปผมไปลงโดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งเป็นคดีหมิ่นประมาท ยอมความไม่ได้ โดยมีทั้งสิ้นเกือบ 10 สำนักข่าวทั้งเพจเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ รวมถึงยังมีคนอื่นๆที่เข้ามาคอมเมนต์ อีกมากมาย สุดท้ายอยากขอความเป็นธรรมกับทุกคน เตือนทุกฝ่ายอยากให้หาข้อมูลให้ดีก่อน และขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน