กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ของขึ้นฉลองคืนวันปล่อยผีลอยกระทง เก็บชัยเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันภายใต้การนำของโค้ชใหม่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ หลังบุกอัด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น ช้าง อารีน่า 3-2 ในศึกฟุตบอลไทยลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2563
แม้ กิเลนผยอง ผู้มาเยือน จะนำก่อนก็ตาม หลังเริ่มเกมมา 15 นาที โดน มาร์โก เซโปวิช ยิงประตูโล่งๆเข้าไป ช่วยให้เจ้าถิ่น “ปราสาทสายฟ้า” ออกนำ 1-0 ทว่าถึง นาที 34 กิเลนผยอง ตีเสมอได้ 1-1 จากจังหวะฟรีคิกทางกราบซ้าย วิลเลี่ยน พอพพ์ เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลลึกไปเสาสองก่อนจะเป็น ลูคัส โฮช่า ได้จังหวะลอยตัวขึ้นโหม่งเต็มๆส่งบอลตุงตาข่าย
นาที 56 เอสซีจี เมืองทองฯ ได้เตะมุมทางขวา วีระเทพ เปิดเข้าไปกลางประตู ศิวรักษ์ ประตูเจ้าบ้านชกบอลออกมากลางประตูในกรอบเข้าทางของ วิลเลี่ยน พอพพ์ พักบอลด้วยอกก่อนซัดซ้ำเข้าไป บอลไปโดนแขนของศุภชัย ทำให้ผู้เล่นเอสซีจี เมืองทองฯประท้วงว่าเป็นแฮนด์บอลทำให้ผู้ตัดสินฟังสัญญาณจากห้องวีเออาร์
ก่อนที่จะไปดูจอด้วยตัวเอง และเป่าชี้เป็นจุดโทษก่อนเป็น แดร์เลย์ รับหน้าที่ยิงจุดโทษ แล้วเจ้าตัวเลือกยิงแบบปาเนนก้า ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ แซงขึ้นนำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-1
นาที 76 ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ จ่ายทะลุช่องให้ แดร์เลย์ เลี้ยงบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษก่อนยิงบอลไปแฉลบกองหลังเจ้าถิ่นมาเข้าทาง วิลเลี่ยน พอพพ์ โดดวอลเลย์ยิง ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ นำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3-1
จากนั้นอีก 2 นาที เจ้าถิ่นพยายามบุกอย่างหนัก ก่อนที่จะเป็น อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ได้โอกาสยิงส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไล่ตาม เอสซีจี เมืองทองฯ 2-3
หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน เอสซีจี เมืองทองฯ บุกเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น 3-2 ทำให้ “กิเลนผยอง” มีเพิ่มเป็น 16 แต้ม ขยับรั้งอันดับ 8 ขณะที่ “ปราสาทสายฟ้า” 4 เกมหลังเก็บได้เพียงแต้มเดียว อยู่ที่ 11 ของตาราง
ส่วนคู่อื่นๆ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แพ้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 0-1 ,ระยอง เอฟซี ชนะ ตราด เอฟซี 2-1 เป็นชัยชนะสามแต้มแรกของเจ้าบ้าน แต่ “ม้านิลมังกร” ระยอง ยังคงรั้งท้ายตารางเช่นเดิม
