ไลป์ซิกโดนเปแอสเชนำก่อน แถมเกือบเสียเพิ่มจากจุดโทษอีก แต่สุดท้ายแซงชนะล้างแค้นฤดูกาลก่อนได้สำเร็จ ส่วนเชลซีคว้าชัยอย่างสวยงามศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน กลุ่มเอช ไลป์ซิก จากเยอรมนี เปิดสนามเรดบูลล์ อารีนา รับการมาเยือนของปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส

เกมนี้ถือเป็นศึกล้างตาจากแชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เมื่อฤดูกาลก่อน ซึ่งเปแอสเชชนะ 3-0 โดยเจ้าถิ่นส่ง ดานี โอลโม, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ลงสนาม ส่วนทีมเยือนนำโดย มอยเซ เคน, ปาโบล ซาราเบีย, อังเคล ดิ มาเรีย

เริ่มเกมมาแค่ 6 นาที ดาโยต์ อูปาเมกาโน จ่ายคืนหลังพลาดเลยโดน มอยเซ เคน ตัดไปได้ จากนั้นเคนบรรจงไหลให้ อังเคล ดิ มาเรีย โฉบมาดีดผ่านผู้รักษาประตูเข้าไป เปแอสเชออกนำ 1-0

นาที 15 เกือบมีประตูเพิ่มอีก มอยเซ เคน พักบอลลงในเขตโทษแล้วพลิกตัวยิง บอลไปโดนแขน ดาโยต์ อูปาเมกาโน ผู้ตัดสินจึงให้จุดโทษเปแอสเช อังเคล ดิ มาเรีย รับหน้าที่สังหารถูก ปีเตอร์ กูลาชี เซฟไว้ได้

นาที 38 โอกาสของเปแอสเชอีกครั้ง อันเดร์ เอร์เรรา วางยาวจากแดนตัวเองให้ อังเคล ดิ มาเรีย หลุดเดี่ยวจากครึ่งสนามเข้าไปยิงผ่านนายทวารไม่เหลือ แต่ดิ มาเรีย อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนแล้ว

นาที 42 อังเคลินโญ รับบอลได้ในเขตโทษแล้วจ่ายไปให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ยิงจากบริเวณหัวกะโหลกหน้าเขตโทษเสียบตาข่าย เป็นการทำประตูทีมเก่าของแข้งรายนี้ด้วย จบครึ่งแรกจึงเสมอกัน 1-1

ครึ่งหลังนาที 55 อังเคลินโญ โยนบอลเข้าเขตโทษแล้วไปตกใส่ เปรสเนล คิมเปมเบ ผู้ตัดสินดูวีเออาร์พบว่าโดนที่แขน จึงให้จุดโทษแก่ไลป์ซิก เอมิล ฟอร์สเบิร์ก รับหน้าที่สังหารเข้าไป เจ้าถิ่นนำ 2-1

นาที 69 อิดริสซา เกย์ เข้าปะทะอันตรายใส่ อมาดู ไอดารา ผู้ตัดสินจึงให้ใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม เปแอสเชต้องเหลือ 10 คน

นาที 90 เปแอสเชเหลือ 9 คน เปรสเนล คิมเปมเบ เสียบจากด้านหลังใส่ ยุสซุฟ โพลเซน เพื่อตัดเกม จึงรับใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดง จบเกมไลป์ซิกชนะ 2-1

ส่วนอีกคู่ อิสตันบูล บาซักเซฮีร์ จากตุรกี เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ 2-1 เจ้าถิ่นได้จาก เดมบา บา นาที 13, เอดิน วิสชา นาที 40 ส่วนทีมเยือนได้จาก อองโธนี มาร์กซิอัล นาที 43

ผ่านไป 3 นัด แมนฯยูไนเต็ดกับไลป์ซิกมี 6 แต้มเท่ากัน แต่แมนฯยูไนเต็ดยังนำจ่าฝูงเพราะเฮดทูเฮดดีกว่า อันดับ 3 เปแอสเช(3 แต้ม) อันดับ 4 บาซักเซฮีร์(3 แต้ม)

กลุ่มอี “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี จากอังกฤษ เอาชนะแรนส์ จากฝรั่งเศส 3-0

เจ้าถิ่นได้จาก ติโม แวร์เนอร์ นาที 10(จุดโทษ) และ 41(จุดโทษ), แทมมี อับราฮัม นาที 50 โดยแรนส์ต้องเหลือ 10 คน ดัลแบร์ต เฮนริเก ถูกไล่ออกนาที 40

อีกคู่ เซบียา จากสเปน เฉือนชนะคราสโนดาร์ จากรัสเซีย 3-2

เจ้าถิ่นได้จาก อิวาน ราคิติช นาที 42, ยุสเซฟ เอ็น เนซีรี นาที 69 และ 72 ส่วนทีมเยือนได้จาก มาโกเม็ด-ชาปี ซูเลย์มานอฟ นาที 17, มาร์คุส เบิร์ก นาที 21(จุดโทษ)

โดยเกมนี้เซบียาต้องเหลือ 10 คน เฆซุส นาบาส ถูกไล่ออกนาที 45

ผ่านไป 3 นัด เชลซีกับเซบียามี 7 แต้มเท่ากัน แต่เชลซีประตูได้เสียดีกว่า จึงนำจ่าฝูง อันดับ 3 คราสโนดาร์(1 แต้ม) อันดับ 4 แรนส์(1 แต้ม)

กลุ่มเอฟ คลับ บรูช จากเบลเยียม แพ้คาบ้านต่อโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ จากเยอรมนี 0-3
ทีมเยือนได้จาก ธอร์กาน อาซาร์ นาที 14, เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ นาที 18 และ 32

อีกคู่ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จากรัสเซีย เสมอกับลาซิโอ จากอิตาลี 1-1 เจ้าถิ่นได้จาก อเล็กซานเดอร์ เอโรคิน นาที 32 ส่วนทีมเยือนได้จาก เฟลิเป ไคเซโด นาที 62

ผ่านไป 3 นัด ดอร์ตมุนด์นำจ่าฝูง(6 แต้ม) อันดับ 2 ลาซิโอ(5 แต้ม) อันดับ 3 คลับ บรูช(4 แต้ม) อันดับ 4 เซนิตฯ(1 แต้ม)

กลุ่มจี “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลนา จากสเปน เฉือนชนะดินาโม เคียฟ จากยูเครน 2-1
เจ้าถิ่นได้จาก ลิโอเนล เมสซี นาที 5(จุดโทษ), เคราร์ด ปิเก นาที 65 ส่วนทีมเยือนได้จาก วิกตอร์ ซีกานคอฟ นาที 75

อีกคู่ เฟเรนช์วารอส จากฮังการี แพ้คารังต่อยูเวนตุส จากอิตาลี 1-4

เจ้าถิ่นได้จาก ฟรองก์ โบลี นาที 90 ส่วนทีมเยือนได้จาก อัลบาโร โมราตา นาที 7 และ 60, เปาโล ดีบาลา นาที 73, ลาชา ดวาลี นาที 81(ทำเข้าประตูตัวเอง)

ผ่านไป 3 นัด บาร์เซโลนาชนะรวด กวาดครบ 9 คะแนนเต็ม นำจ่าฝูง ตามด้วยอันดับ 2 ยูเวนตุส(6 แต้ม) อันดับ 3 ดินาโม(1 แต้ม) อันดับ 4 เฟเรนช์วารอส(1 แต้ม)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน