กกท เดินหน้าเต็มสูบ ดันการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เป็นวาระแห่งชาติ ประสาน เพื่อให้ศูนย์ปฎิบัติการตรวจสารต้องห้ามของไทย กลับมาได้มาตรฐานสากล เปิดใช้ได้เหมือนเดิม หลังจากถูก วาดา ปิดชั่วคราว ไปนาน

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ภายหลังจาก ห้องปฎิบัติการตรวจสารต้องห้ามของไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ถูกปิดชั่วคราว จากคำสั่งของ องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดา เนื่องจากมีปัญหาเรื่องวิธีการตรวจสอบ การส่งผลการตรวจล่าช้า และการขาดแคลนบุคลากรผู้ควบคุมคุณภาพ รวมทั้งพบว่า ยังขาดการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ อย่างเป็นรูปธรรม

ขณะที่ อินโดนีเซีย ออกข่าวไปก่อนหน้านี้ ต้องการชิงจังหวะช่วงแลปไทย มีปัญหา เดินหน้า เอาจริง ประกาศแผน หวังเป็นเบอร์ 1 อาเซียน แทน ด้วยการสร้างศูนย์ตรวจสารต้องห้าม มาตรฐานสากล ในปีหน้า 2021 โดยระบุว่า ที่ผ่านมา ส่งตัวอย่างไปตรวจต่างประเทศ ใช้งบประมาณไม่น้อย จึงคิดตั้งศูนย์ตรวจขึ้นมาเอง และแนวทางนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นที่จะเสนอตัวจัดโอลิมปิก ปี 2032 อีกด้วยนั้น

ในเรื่องนี้ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท ) กล่าวว่า กกท. เดินหน้า ให้ความสำคัญกับ การป้องกันการใช้สารต้องห้าม อย่างต่อเนื่อง และ แน่นอนว่า กกท. ดำเนินการ ตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบายกีฬาแห่งชาติ ที่ให้การควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เป็นวาระแห่งชาติ อย่างเต็มที่ โดยที่่ผ่านมา ได้ประสานความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยมหิดล อยู่ตลอด เพื่อให้ศูนย์ปฎิบัติการตรวจสารต้องห้ามของไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล กลับมาได้มาตรฐานสากล เปิดใช้ได้เหมือนเดิม หลังจากถูก วาดา ปิดชั่วคราว ไปนาน

“นอกจาก กกท ได้พูดคุยกับ ทางมหาวิทยาลัยมหิดล อย่างต่อเนื่องแล้ว เราก็ได้ประสานกับทางวาดา อยู่ตลอดเช่นเดียวกัน ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือการตรวจของกกท. ซึ่งอยู่ที่ ห้องปฎิบัติการตรวจสารต้องห้าม แม้เราจะซื้อมานานแล้ว อาจจะตรวจไม่ครอบคลุม เพราะตัวอย่างสารต้องห้ามใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอด แต่เราก็ได้ปรับปรุง ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ได้มาตรฐาน ซึ่งตรงนี้ ต้องรอให้ทาง วาดา เดินทางมาตรวจ แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะ เนื่องจากในเวลานี้ทั่วโลกยังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้เจ้าหน้าที่วาดา ยังไม่สะดวกเดินทางมาไทยในเวลานี้” ดร.ก้องศักด กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน