หลังจากที่ “เสือเตี้ย” ดิเอโก มาราโดนา ตำนานฟุตบอลชาว อาร์เจนตินา ได้เสียชีวิตลงสร้างความเสียใจให้กับแฟนลูกหนังทั่วโลก
เรามาย้อนดูเกร็ดชีวิตของ จิตวิญญาณแห่ง อาร์เจนตินาคนดีว่า เหตุใดเขาถึงเป็นนักเตะที่แฟนบอลรัก และเกลียดได้ในเวลาเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่คนทั้งโลกยอมรับคือ ฝีเท้า ที่ยังตราตรึงในโลกฟุตบอลตลอดไป
1.ดิเอโก อาร์มานโด มาราโดนา เกิดเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 1960 ที่ชานเมือง บูโนสไอเรส
2.มาราโดนา เล่นให้ทีมชาติอาร์เจนตินา 91 นัด ยิงไป 34 ประตู
3. มาราโดนา เล่นฟุตบอลโลก 4 ครั้ง
4. มาราโดนา ช่วยให้ โบคา จูเนียร์ส คว้าแชมป์ลีกอาร์เจนตินาในปี 1982 ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลนาในปี 1984 และ ย้ายไปเป็นตำนานตลอดกาลกับ นาโปลี ในอิตาลี ด้วยการทพาทีมเล็กๆจากเนเปิ้ลคว้าแชมป์ เซเรีย อา อิตาลี. 2 สมัย ในปี 1987 และ ปี 1990

5. มาราโดนา เป็นกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินามากที่สุดในฟุตบอลโลก ที่ 16 ครั้ง
6. มาราโดนา ลงเตะในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ไป 21 นัด
7.ในวัย 15 ปี มาราโดนา เริ่มต้นการเล่นอาชีพกับ อาร์เจนตินอส จูเนียร์ในวันที่ 20 ต.ค. 19
8. มาราโดนา เป็นสมาชิกทีมชุดควาแชมป์ฟุตบอลเยาวชนโลก ปี 1979 ที่ญี่ปุ่น
9. ในวันที่ 27 ก.พ. 1977 มาราโดนา ลงเตะให้ทีมชาติชุดใหญ่ พบกับ ฮังการี ในวัยแค่ 16 ปี ที่บอมโบเนร่า สเตเดี้ยม

10. มาราโดนา มีรอยสักรูป เช กูวาร่า นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวอาร์เจนตินาที่แขนขวา และ มีรอยสัก ฟิเดล คาสโตร ผู้นำคิวบาที่ขาซ้าย
11.มาราโดนา ถือสถิติเป็นนักเตะที่ทำฟาวล์มากที่สุดในฟุตบอลโกล ที่ 53 ครั้งในฟุตบอลโลกที่เม็กซิโก
12.มาราโดนา ถือครองสถิตินักเตะที่ถูกทำฟาวล์มากที่สุดในฟุตบอลโลกปี 1982 ที่ 23 ครั้ง
13.มาราโดนา เป็นกัปตันทีมในแมตช์เอาชนะ เยอรมัน ตะวันตก ในรอบชิงฟุตบอลโลกปี 1986 ด้วยสกอร์ 3-2
14.มาราโดนา คว้ารางวัลลูกบอลทองคำจากการเป็นนักเตะที่มีผลงานยอดเยี่ยมในปีเดียวกัน
15. มาราโดนา สร้างชื่อด้วยการทำแฮนด์บอลใส่พังประตู อังกฤษ ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกปี 1986 และให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “ประตูนี้เกิดขึ้นจากหัตถ์พระเจ้า และลูกโหม่งของมาราโดนา”
Diego Maradona Peter Shilton Argentina England 1986 World Cup
16. มาราโดนา คว้าแชมป์ เซเรีย อา กับ นาโปลีในปี 1987 และ ปี 1990 และยังพาทีมนาโปลี ควาแชมป์ยูฟ่า คัพในปี 1989

17.ฟุตบอลโลกปี 1994 ที่สหรัฐ มาราโดนา ได้เล่นเพียงแค่สองเกม และทำ 1 ประตูในเกมกับกรีซ ก่อนถูกส่งตัวกลับบ้านเพราะไม่ผ่านการตรวจโด๊ป

18. มาราโดนา แต่งงานกับ คลอเดีย วิลลาฟาเน่ ในวันที่ 7 พ.ย. 1989 และหย่าในปี 2004

19. มาราโดนา รับงานพิธีการในทอล์กโชว์ ที่อาร์เจนตินา โดยเทปแรกมี เปเล่ ตำนานลูกหนังบราซิล เป็นแขกรับเชิญ


20. มาราโดนา ก้าวขึ้นเป็นผู้จัดการทีมชาติ อาร์เจนตินา ในเดือน ต.ค. 2008
21. มาราโดนา คุมทีมนัดแรกในเกมเอาชนะ สกอตแลนด์ 1-0 ในวันที่ 19, 2008.
22. มาราโดนา มีสถิติคุมทีมพ่ายแพ้มากที่สุดต่อโบลิเวีย 1-6 ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก จนถูกวิจารณ์อย่างรุนแรง และเมื่อท้ายที่สุด อาร์เจนตินาผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2010 แบบหืดจับ ทำให้เจ้าตัวถอนแค้นด้วยการ ด่ากราด ระหว่างให้สัมภาษณ์ และถูก ฟีฟ่า แบน 2 เดือน

23. 20 มิ.ย. 2010 มาราโดนา พุดถึงลูกฟุตบอลจาบูลานี ที่ใช้ในฟุตบอลโลก 2010 ว่า “ผมขอให้พวกคนใหญ่คนโตในฟีฟ่าเลิกพูดถึงผมสักที แล้วเริ่มทำงานกับลูกบอลบ้าๆนี่สักที มันควบคุมทิศทางไม่ได้”
24. ในการแถลงข่าวฟุตบอลโลก 2010 จู่ๆ มาราโดนา ก็กระโดดเข้าไปกอด ซัลวาตอเร่ บายี อดีตเพื่อนร่วมทีมนาโปลี ซึ่งเป็นคอมเมนเตเตอร์ “มาราโดนา ทำให้ผมประหลาดใจได้เสมอ แม้ว่าเราจะรู้จักเขาดีแค่ไหน”
25. มาราโดนา ปกป้อง ลีโอเนล เมสซี่ หลังทำผลงานได้ไม่ดีนักในฟุตบอลโลก 2010 ว่า”ใครหน้าในที่บอกว่า ลีโอ ไม่มีฟุตบอลโลกที่ยิ่งใหญ่ มันก็เป็นแค่พวกหน้าโง่เท่านั้น”
Lionel Messi Diego Maradona Argentina

26. ฮอร์เกน บัลดาโน่ อดีตเพื่อนร่วมทีม มาราโดนา เคยกล่าวถึง มาราโดนาว่า “เขาเป็นคนที่หลายคนต้องการเอาอย่าง มาราโดนาเป็นคนที่มีความขัดแย้งในตัวเอง เป็นที่รัก และถูกเกลียดชังในเวลาเดียวกัน ความเครียดในชีวิตทำให้ มาราโดนาทำความผิดพลาดมากมายในสนาม แต่เขาเลือกที่จะเปลี่ยนมันเป็นเหมือนการแสดง และบางครั้งเขาไม่ควรเป็นแบบอย่าง”
27.สมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา เคยขอรีไทร์ หมายเลข 10 ของทีมชาติเพื่อเป็นเกียรติแก่ มาราโดนา แต่ ฟีฟ่า ปฏิเสธ

28. อาร์เจนตินอส จูเนียร์ส ตั้งชื่อสนามตามชื่อ “เสือเตี้ย” คือ เอสตาดิโอ ดิเอโก อาร์มานโด มาราโดนา
29. มาราโดนา เคยกล่าวหลังเอาชนะอังกฤษในฟุตบอลโลก 1986 ว่า “พวกเราเอาชนะประเทศพวกมัน ไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอล” ซึ่งเสือเตี้ยพยายามสื่อถึงปัญหาหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ พื้นทีพิพาทระหว่างอังกฤษ-อาร์เจนตินา
30. มาราโดนา เคยกล่าวในปี 1996 ว่า “ผมเคยเป็นไอ้ขี้ยา และผมคงจะเป็นคนติดยาตลอดไป เพราะคนที่ไปเกี่ยวข้องกับมันก็ต้องสู้กับมันทุกวัน”
31. ปี 2000 ฟีฟ่า พยายามจะตัดสินเลือกนักเตะแห่งศตวรรษ เพื่อเป็นรางวัลแด่สหัสวรรษใหม่ และสุดท้าย เปเล่ และ มาราโดนาได้ครองรางวัลร่วมกัน เปเล่ ซึ่งได้รับรางวัลจากการโหวตของนักข่าว และโค้ช กล่าวถึง มาราโดนา ซึ่งได้รับการโหวตจากแฟนบอลว่า “ถ้าเขาคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก นั่นเป็นปัญหาของเขา”

32. คาร์ลอส บิลาร์โด อดีตกุนซือทีมชาติอาร์เจนตินาเคยเลือกนักเตะ 11 คนแรกว่า “มาราโดนา และนักเตะที่เหลืออีก 10คน”

33. มาราโดนา ได้รับเลือกเป็นรองประธานสโมสร โบคา จูเนียร์ส ในปี 2005 และลาออกในปีต่อมา

34. เออร์เมียร์ คุสตาริกา นักสร้างหนังชาวเซอร์เบีย ทำสารคดีเกี่ยวกับมาราโดนาเป็นครั้งแรก และฉายครั้งแรกที่ เทศกาลหนังเมืองคานส์ในปี 2008

35. ในปี 1986 เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษกล่าวว่า “ด้วยมาราโดนา อาร์เซนอล ก็ดีพอจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก”

36. อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ “ฟิล นีล” พูดถึงมาราโดนาในวัย 18 ปี เมื่อปี 1978 ว่า “ไอ้หนูนั้นมันเหลือเชื่อ นี่เป็นนักเตะที่ดีที่สุดที่ผมเคยเห็นมา”

มาราโดนา

37. แฟนบอลในบูโนไอเรส พยายามก่อร่าง “ศาสนามาราโดนา” หรือ “Iglesia Maradoniana” ในปี 1988 และ โดยโลกของศาสนานี้เริ่มต้นขึ้นในวันเกิดมาราโดนา 30 ต.ค. ปี 1988 และในวันที่ 30 ต.ค. 2020 เพิ่งเป็นปีที่ 60 DD (despues de Diego) หรือ ปีศักราชมาราโดนาที่ 60
38. ประตูหัตถ์พระเจ้าที่ มาราโดนา กระโดดเหนือ ปีเตอร์ ชิลตัน และเอาชนะอังกฤษในปี 1986 นั้น ไม่ได้ถูกจารึกเอาไว้ในฐานะประตูที่ยอดเยี่ยม แต่อีกประตูที่มาราโดนา ลากเผาเครื่องนักเตะอังกฤษทั้งแผง ได้รับการยกย่องจากฟีฟ่าให้เป็นประตูแห่งศตวรรษ

39. มาราโดนา ถูกนำไปล้อเลียนในโชว์หุ่นละครมือ ในฝรั่งเศส “Les guignols de l’info’ ซึ่งนำเสนอล้อเลียนคนดัง
40. มาราโดนาเป็นเพื่อนสนิทกับ ราอูล คาสโตร ผู้นำคิวบา น้องชายของ ฟีเดล คาสโตร
41. มาราโดนา ต้องอำลา นาโปลี ในปี 1991 เนื่องจากถูกตรวจพบสารเสพติดโคเคนในปี 1991
42. มาราโดนา ปฏิเสธการเข้าร่วมพิธีเปิดฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี โดยระบุว่า “ผมไม่อยากไปแล้วเห็นขี้หน้าของเปเล่เดินไปเดินมา”

เปเล มาราโดนา

43. สงครามน้ำลายกับเปเล่ มีอย่างต่อเนื่อง โดยเปเล่ เคยให้สัมภาษณ์ ถึงการทำทีมชาติของ มาราโดนาว่า “มันไม่ใช่ความผิดของมาราโดนา มันเป็นความผิดของคนที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้” และแน่นอน ทัวร์ลง เปเล่ เมื่อแฟนบอลด่ากลับว่า “เปเล่ กลับไปพิพิธภัณฑ์และอยู่มันในนั้นนั่นแหละ”
44. สรรพากร อิตาลี เผยในปี 2009 มาราโดนา ติดหนี้ภาษีอยู่ถึง 37 ล้านยูโร และมากกว่าครึ่งในจำนวนนี้เป็นดอกเบี้ยจากการค้างจ่าย
45. มาราโดนา มีสถิติยิงประตูสมัยค้าแข้งในอาร์เจนตินาที่ 0.526 ประตูต่อเกม
46. มาราโดนา เป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดในนามทีมชาติอันดับ 5 ตลอดกาลที่ 34 ประตู 91 เกม เป็นรองนักเตะรุ่นหลังอย่าง ลีโอเนล เมสซี่, กาเบรียล บาติสตูตา, เซร์คิโอ อเกโร และ เฮอร์นาน เครสโป

47. แฟนบอล “เดอะ ตาร์ตัน” ทีมชาติสกอตแลนด์ร่วมร้องเพลงเป็นเกียรติให้กับ มาราโดนา หลังเขี่ยน อังกฤษตกรอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก ปี 1986
48. มาราโดนา เคยกล่าวในฟุตบอลโลก 1998 ว่า “นักเตะไม่เคลื่อนไหวเลย อยู่กันแค่พื้นที่ไม่เกินฟุต พวกเขาเล่นเหมือน โรโบคอป พวกเขาควรเติมน้ำมันหล่อลื่นหน่อย แล้วก็ไปนวดบ้าง ผมไม่อยากจะเชื่อว่านี่จะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ห่วยที่สุดของเรา”
49. IIMSM หรือ สถาบันระหว่างรัฐบาลเพื่อการใช้สาหร่ายสไปรูลินาขนาดเล็กเพื่อต่อต้านการขาดสารอาหาร แต่งตั้ง มาราโดนา เป็นทูตในปี 2006
50. กุสตาโว เบอร์นสตีน นักจิตวิทยาชาวอาร์เจนตินา และนักเขียน เคยเขียนถึงเสือเตียในปี 1997 ว่า
“มาราโดนาเป็นศูนย์รวมจิตใจ ไม่มีใครรวบรวมแก่นแท้ของเราได้ดีกว่า ไม่มีใครถือตราสัญลักษณ์ของเราอย่างสง่างามกว่านี้อีกแล้ว อาร์เจนตินา คือ มาราโดนา และ มาราโดนาคืออาร์เจนตินา”
51. มาราโดนา เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลที่ทำลายสถิติค่าตัวในการย้ายทีมได้ถึง 2 ครั้ง ครั้งย้ายจาก โบคา จูเนียร์ส ไป บาร์เซโลนา ที่ 7.6 ล้านเหรียญสหรัฐ และ ย้ายจาก บาร์เซโลน่ามานาโปลีด้วยค่าตัว 10.48 ล้านเหรียญสหรัฐ
52. ฟรังโก บาเรซี่ และ เปาโล มัลดินี่ สองตำนาน กองหลัง เอซีมิลาน และ ทีมชาติอิตาลี ยกให้ มาราโดนา เป็นคู่แข่งที่หินที่สุดเท่าที่เคยเผชิญหน้ามา
53. มาราโดนา และ เมสซี่ เป็นสองนักเตะที่เคยได้รับรางวัล ลูกบอลทองคำ จาก ฟุตบอลเยาวชนโลก รุ่น 20 ปี และ ฟุตบอลโลกFIFA U-20 World Cup and FIFA World Cup.
54. 17 ส.ค. 2015 มาราโดนา เดินทางไปหา อาลี บิน นาสเซอร์ ผู้ตัดสินชาวตูนิเซีย และมอบเสื้อ พร้อมลายเซ็นให้กับ บิน นาสเซอร์ ผู้ตัดสินในเกมที่เกิดเหตุ “หัตถ์พระเจ้า”

55. ปี 2000 มาราโดนา ออกหนังสืออัตชีวประวัติ “Yo Soy El Diego” หรือ “ข้าคือ ดิเอโก” และมอบให้กับ ประชาชนชาวคิวบา
56. มูลนิธิ คอนเน็กซ์ ในอาร์เจนตินา ได้มอบรางวัล ไดมอนด์ คอเน็กซ์ อวอร์ดในปี 1990 ให้มาราโดนา จากการอุทิศชีวิตเพื่อวงการกีฬา
57. จากเหตุการณ์ทุบรถนักข่าว ที่ลุกล้ำความเป็นส่วนตัว มาราโดนา โพล่งไปว่า “นี่คือหัตถ์แห่งเหตุผล”
58. บ็อบ วิลสัน อดีตผู้รักษาประตูสกอตแลนด์ กล่าวยกย่อง มาราโดนาว่า “เขาเป็นข้อบกพร่องของอัจฉริยะ แต่ตอนนี้เขาเป็นอัจฉริยะที่มีข้อบกพร่องเท่านั้น”
59. สมัยค้าแข้งกับ บาร์เซโลนา มาราโดนา เคยฉีกแนวรับ เรอัล มาดริด ก่อนจะเข้าไปหลอก ออกุสติน นายทวาร และ ฮวน โฮเซ่ กองหลังจนหัวทิ่ม หลังยิงประตูเข้า แฟนมาดริด ยืนปรบมือให้ มาราโดนา อย่างศิโรราบ
60. มาราโดนา เล่นประสานงานกับ บรูโน จิออร์ดาโน และ กาเรกา พา นาโปลี คว้าแชมป์ลีกอิตาลี 2 สมัย และแฟนบอลเรียกพวกเขาทั้ง 3 ว่า “มา-จิ-กา” หรือ เมจิก เวทย์มนต์นั้นเอง
61. มาราโดนา ไม่ได้รับเลือกเข้าทีมชาติชุดลุยฟุตบอลโลกปี 1978 เนื่องจาก เซซาร์ หลุยส์ มินอตติ กุนซือทีมชาติมองว่า มาราโดนา ในวัย 17 ปี เด็กเกินไป
62. ในปี 2019 สารคดี “มาราโดนา” ซึ่งกำกับโดย อาซีฟ กาปาเดีย ออกฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์อีกครั้ง
63. เพื่อเป็นการยกย่อง ทางการเม็กซิโก ได้สร้างรูปปั้น มาราโดนา ทำหัตถ์พระเจ้าไว้ที่ทางเข้าสนาม พร้อมข้อความใต้ฐาน “ประตูแห่งศตวรรษ”
64. มาราโดนา มีลูก 2 คน ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์เรียกแขกไว้ว่า ลูกที่ถูกต้องตามกฎหมายของผมคือดัลมาและจิอันนินา ส่วนที่เหลือเป็นผลมาจากเงินและความผิดพลาดของผม”

65. ธ.ค. 2007 มาราโดนา มอบเสื้อพร้อมลายเซ็นต์ให้เพื่อแสดงการสนับสนุนประชาชนชาวอิหร่านจากข้อพิพาทระหว่างประเทศ และถุกจัดแสดงไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน
66. มาราโดนา เดินทางไปคารวะสุสานของ ฮูโก ชาเวซ ในปี 2013 และเรียกร้องให้ชาวเวเนซูเอล่าเลือก นิโกลา มาดูโร่ เป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง
67. คุสตูริกา ผู้กำกับภาพยนต์สารคดี เคยพูดถึงมาราโดนาว่า “ผมเคยถามตัวเองว่า เขาเป็นใครกัน เขาเป็น นักฟุตบอลที่มีเวทย์มนต์ เป็นเซกซ์พิสทอล แห่งวงการฟุตบอล เหยื่อโคเคน ถ้าแอนดี้ วอร์ฮอล (ศิลปินป๊อบคัลเจอร์) ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะเลือกมาราโดนา ยืนคู่กับ มาริลีน มอนโร และ เหมา เจ๋อ ตุง ผมกล้าพูดว่าเขาไม่ใช่แค่นักฟุตบอล แต่เขาสามารถเป็นนักปฏิวัติได้เลย”
68. มาราโดนา ได้รับเลือกเป็นผู้เล่นตำนานตั้งแต่ FIFA เวอร์ชั่น FIFA18 พร้อมกับ เป็นไอคอนของฝั่ง Pro Evolution Soccer 2018 ในเวลาเดียวกัน
69. ดิเอโก คอสตา นักเตะสเปน ซึ่งเกิดในบราซิล ยกย่องมาราโดนาเสมอ แม้จะเลือกเล่นให้บราซิล
70. มาราโดนา ร่วมแสดงในมิวสิค วิดิโอ เพลง วากา วากา ของฟุตบอลโลก 2010 โดยมีฉากที่ เจ้าตัวคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1986

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน