คุณ วินิจ เลิศรัตนชัย เป็นอดีตนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง และยังเป็นนักธุรกิจจัดคอนเสิร์ตที่มีผลงานโดดเด่นมากมาย ในแวดวงกีฬาเขาคือ คุณพ่อของ 2 สาวคนสวย “สายลับ” และ “เสียงซอ” นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยผู้มากความสามารถ และยังเป็นสามีของ “คุณส้มโอ” เพ็ญพิสุทธิ์ อดีตดารานางเอกภาพยนตร์ไทย จาก”ซึมน้อยหน่อย กะล่อนมากหน่อย” ที่ติดตราตรึงใจผู้ชมวัยดึก นับได้ว่าเป็นครอบครัวคนดัง ทั้งดารา บันเทิง และนักกีฬา ครบวงจร
ถึงจะเป็นอดีตดีเจคนดัง แต่คุณวินิจ ก็เป็นคนมีกีฬาและชื่นชอบฟุตบอลอยู่ในหัวใจเต็มเปี่ยม เคยไปนั่งดู “ดิเอโก้ มาราโดน่า” ราชาลูกหนังโลก เมื่อสมัยโชว์ลีลาพาทีมชาติอาร์เจนติน่า ลุยเวิลด์คัพ รอบสุดท้าย ประทับใจลีลาการเล่นมิรู้คลาย จนกระทั่งล่าสุด มีข่าวช็อกโลกการจากไปของ “เสื้อเตี้ย” ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน สร้างความโศกเศร้าไปทั่วโลก รวมทั้งตัวคุณวินิจด้วย
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แกจึงชักชวนเพื่อนพ้องและพี่น้องสื่อมวลชนสายกีฬา นำโดย “วันกล้า ขวัญแก้ว” นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ พร้อมน้องๆดีเจจากคลื่นวิทยุ FM 99 “คลื่นเมืองไทยแข็งแรง” และสื่อทีวีอย่าง “ยักษ์ 7 สี” อดิพงษ์ โล้ช้างสาร ตากล้องมือดีช่อง 7 สี ไปร่วมฟาดแข้งนัดพิเศษ ร่วมรำลึกไว้อาลัยให้กับการจากไปของมาราโดน่า ที่ สนามฟุตบอล “ยาชิ”
สนามส่วนตัว บนพื้นที่ติดกับคฤหาสน์หรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่มากว่า 14 ปี หลังใช้เวลาเนรมิตรสนามฟุตบอลในฝันของตัวเอง ซึ่งต้องใช้เวลาสร้างรวม 7 เดือนจึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ตามจินตนาการ มีรูปปั้นการ์ตูน ซึบาซะ แต่น่าตาคล้ายกับตัวคุณวินิจเอง ติดตั้งอยู่ด้านหน้าสนามบอล ไม่เพียงเท่านั้น ภายในคฤหาสน์ ยังสะสมไปด้วยรถหรูสปอร์ตคันงามมากมายไม่ต่ำกว่า 6-7 คัน ยังไม่นับรวมเรือยอร์ชลำงามที่จอดเทียบท่าหน้าบ้านตัวเอง เป็นของเล่นชิ้นล่าสุด
ในกิจกรรมฟุตบอลนัดพิเศษ ที่จัดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณวินิจ ชวนเพื่อนพ้องคนสนิท รวมทั้ง “โต๋ ศักดิ์สิทธิ์” (ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร) ศิลปินนักร้อง นักดนตรีชื่อดัง รวมทีมในสีเสื้อ”ฟ้าขาว” ทีมชาติ อาร์เจนติน่า ชุดเดียวกับเมื่อครั้งฟุตบอลโลก 1990 ก่อนเริ่มฟาดแข้งกับรวมดาวสื่อที่มี “สว.แต้” คุณกฤษฎา สัจจกุล ทายาท”บิ๊กหอย”ธวัชชัย อดีตผู้จัดการยุคดรีมทีมของไทย มาในสีเสื้อชุด ทีมชาติแคเมอรูน
ก่อนเตะ มีพิธีการเปิดตัวพร้อมมอบถ้วยจำลอง ‘จูลส์ ริเมต์’ ที่หายสาปสูญไป (หรือของจริงอาจมาอยู่ที่นี่) ก่อนเริ่มแข่งขัน แถมยังสร้างบรรยากาศเฮฮาไปด้วยเสียงบรรยายของพิธีกร ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นดีเจ นักจัดรายการฝีปากจัดจ้านอยู่แล้ว เรียกความสนุกครึกครื้นตลอดงาน จนกิจกรรมดังกล่าวเสร็จสิ้นไปด้วยดี เปี่ยมด้วยรอยยิ้มและความประทับใจ
คุณวินิจ ในวัย 59 ปี ฟื้นความหวังให้ฟังว่า ถึงที่มาของการจัดกิจกรรม ฟุตบอลกระชับมิตรครั้งนี้ว่า สมัยรุ่นๆตอนเป็นดีเจหนุ่มไฟแรง เคยเดินทางไปตามลำพังเพียงคนเดียว เพื่อไปชมเกมลูกหนังฟุตบอลโลก 1990 รอบสุดท้าย นัดเปิดสนาม ซึ่งแชมป์เก่า อาร์เจนติน่า พบกับ “หมอผี” แคเมอรูน ที่สนามซานซิโร่ สเตเดี้ยม
“ในปีนั้น เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ถึงวันนี้ ผ่านไปครบ 30 ปีพอดีเชียวนะ ผมยังจำได้ดี” อดีตดีเจนักจัดรายการเพลงคนดังรำลึกให้ฟัง ถึงตำนานลูกหนังโลกคนดังว่า
“ครั้งนั้นผมเดินทางไปตามลำพังคนเดียว คนเดียวจริงๆนะ และยังบังเอิญได้ไปพบกับ ป๋าลอ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตนายกสมาคมฟุตบอล ในคราวนั้นด้วย เมื่อพูดถึง มาราโดน่า มันเป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจมาก ก่อนเกมแข่งขันจะเริ่มต้น เขาจะสร้างความเอนเตอร์เทนให้คนดูรอบสนามหลายหมื่นคน ด้วยการโชว์ทักษะบอล เขาจะเดาะบอลวอร์มร่างกายให้แฟนๆได้ฮือฮากันกึกก้องสนาม เหมือนกับจะโชว์ว่า ลีลาขั้นเทพนั้นเป็นเช่นไร แต่น่าเสียดายที่เกมนัดเปิดสนามวันนั้นจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของแชมป์เก่า 0-1”
“พรสวรรค์ ความสามารถเฉพาะตัวของมาราโดน่านั้น ผมมองว่า เขาแตกต่างจากนักฟุตบอลระดับโลกคนอื่นๆมาก ผมว่า เขาสามารถแบกรับภาระแทนเพื่อนๆได้ทั้งทีม จากวันนั้นจนถึงวันนี้ในสายตาของผม ผมยังไม่เห็นว่า ใครจะทำหน้าที่แบกรับทั้งทีมได้แบบเขา มาราโดน่าเป็น นักฟุตบอลตัวเล็ก แต่มีความแข็งแกร่ง หาใครเทียบกับเขาได้ยากมาก แม้ว่า เปเล่ ,เมสซี่ หรือ ซีดาน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีลีลาความสามารถแตกต่างกันไป แต่สำหรับเขา ผมว่า มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก”
การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของเทพเจ้าลูกหนังโลกผู้นี้ ถือเป็นความสูญเสีย อย่างยิ่งใหญ่ นี่จึงเป็นอีกกิจกรรมเล็กๆที่ วินิจ เลิศรัตนชัย และเพื่อนๆ รวมใจกันจัดขึ้นด้วยความเต็มใจ ทั้งยังทำให้ตระหนักว่า คนทั้งโลกล้วนอาลัยกับการจากไปของเขา… “เสือเตี้ย” ดิเอโก้ มาราโดน่า
