ศึกเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ 2030 ระหว่าง “ริยาด” ซาอุดิอาระเบีย – “โดฮา” กาตาร์ คู่อริแห่งตะวันออกกลางดุเดือด หลัง ซาอุดิอาระเบีย ร้องเรียนให้ยกเลิกการโหวตออนไลน์เนื่องจากเกรงว่าจะโดนแฮกข้อมูลเอาได้ และสุดท้าย เป็นฝั่งโดฮา ที่คว้าสิทธิ์จัดเอเชียนเกมส์อีกครั้ง หลังจากที่เคยเป็นเจ้าภาพในปี 2006 มาแล้ว


ริยาด และ โดฮา สองเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง จากปัญหาทางการเมือง กระโดดมาชิงเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 21 กันอีกหนึ่งเวที และในการประกาศผลการคัดเลือกเมื่อ 16 ธ.ค. ซึ่งจัดขึ้นระหว่างการประชุม โอซีเอ ที่ประเทศโอมาน และให้ชาติสมาชิกโหวตผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทางซาอุดิอาระเบีย พยายามร้องให้ยกเลิกการโหวตออนไลน์ เนื่องจากเกรงจะมีปัญหาทางเทคนิค และสุดท้ายการโหวตต้องเลื่อนออกไปถึง 3 ครั้งเนื่องจากระบบมีปัญหา และอาจจะมีช่องทางให้การโหวตถูกแฮกได้ จึงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นการโหวตออนไลน์ 19 เสียง สำหรับชาติที่ไม่สามารถเดินทางมาได้และอีก 26 เสียงโหวตสำหรับชาติที่เข้าร่วมประชุมที่ มัสกัต โดยมีเงื่อนไขว่าเมืองที่ได้โหวตมากกว่าจะได้จัดก่อนในปี 2030 และอีกชาติจะได้จัดในปี 2034 ซึ่งหมายความว่าจะเป็นครั้งแรกที่การจัดเอเชียนเกมส์จะมีขึ้นในภูมิภาคเดียวกัน 2 ครั้งติดต่อกัน


ผลปรากฎว่า โดฮา ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ในปี 2030 หลังจากที่เคยเป็นเจ้าภาพมาแล้วในปี 2006 โดยจะเป็นเจ้าภาพต่อจาก เอเชียนเกมส์ ปี 2022 จะจัดขึ้นที่เมือง หางโจว ประเทศจีน และ ปี 2026 จะจัดขึ้นที่เมือง ไอจิ-นาโงย่า ประเทศญี่ปุ่น
ขณะที่ ริยาด ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปี 2034 อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูท่าทีจะฝั่งซาอุดิอาระเบียอีกครั้งว่าจะรับหน้าที่ดังกล่าวหรือไม่
ด้านชีค อาหมัด อัล ฟาฮัด อัล ซาบาห์ ประธานโอซีเอ ระบุว่า การคัดเลือกเจ้าภาพครั้งนี้ไม่มีผู้ชนะ ไม่มีผู้แพ้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน และ อียิปต์ ต่างคว่ำบาตรทางการค้า และการเดินทางกาตาร์ มาตั้งแต่ปี 2017 เนื่องจากมองว่า กาตาร์ ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน