แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี สองทีมแกร่งของศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ได้ไปลุยต่อในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ ตามคาด หลังคว้าชัยในรอบสาม เมื่อ 10 ม.ค.
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ทีม“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จากพรีเมียร์ ลีก เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ พบกับ มอร์แคมบ์ จากลีกทู โดยเกมนี้เจ้าบ้านยังจัดเต็มแนวรุก ส่ง ติโม แวร์เนอร์, คัลลัม ฮัสสัน โอดอย และ ฮาคิม ซิเยก เป็นสามประสานในแดนหน้า
โดยเกมในครึ่งแรกเจ้าบ้านขึ้นนำตั้งแต่ นาที 18 จาก เมสัน เมาต์ นาที 18 ต่อด้วย ติโม แวร์เนอร์ ในช่วงท้ายครึ่งแรก ในนาที 44 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
ครึ่งหลัง เชลซี มาบวกประตูเพิ่มจาก คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ให้พวกเขาออกนำ 3-0 ในนาที 49
ช่วงท้ายเกมเชลซี มาได้ประตูปิดกล่องจาก ไค แฮร์เวิร์ตซ์ ในนาทีที่86
หลังจากนั้นไม่มีทีมไหนยิงเพิ่มได้ จบเกมเชลซี ชนะ 4-0 ผ่านเข้ารอบสี่ได้สำเร็จ
ทางด้านทีม“เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ อีกหนึ่งทีมดังจากพรีเมียร์ ลีก เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของเบอร์มิงแฮฒ ซิตี้ จากลีกแชมเปียนชิพ เกมนี้แมนฯ ซิตี้ ไม่มีการพักนักเตะเท่าไร กองหน้าตัวเป้าใช้ กาเบรียล เชซุส ส่วนแผงกองกลางมีทั้ง เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาโด ซิลวา, ฟิล โฟเดน และ ริยาด มาห์เรซ
เกมนี้แมนฯ ซิตี้ คุมเกมไว้ได้หมดและแทบจะปิดเกมได้ในครึ่งแรก เมื่อนำห่าง 3-0 ในช่วง 45 นาทีแรก ได้ประตูจาก แบร์นาโด ซิลวา เหมาคนเดียว 2 ลูก นาที 8 และ 15 ส่วนอีกประตูจาก ฟิล โฟเดน นาที 33
ส่วนครึ่งหลังไม่มีทีมไหนยิงเพิ่มได้ จบเกมแมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านชนะไป 3-0 ผ่านเข้ารอบ 4 แบบไม่พลิกโผ
