ไทยลีก โดยนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการซีอีโอ เผยยินอย่างยิ่งหากศบค. จะปลดล็อกหลายจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้ม เชื่อจะเป็นประโยชน์กับสโมสรและเศรษฐกิจ
ไทยลีก โดยนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยลีก จำกัด เผยถึงกรณีที่หลายจังหวัดในภาคตะวันออก ซึ่งถูกจัดอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด (โซนสีแดงเข้ม) เตรียมยื่นเรื่องต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อปลดล็อกให้เป็นพื้นที่สีแดงหรือสีส้ม เนื่องสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในหลายจังหวัดลดลงต่อเนื่อง และไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดนั้นๆ ติดต่อกันมาหลายวัน
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่าทั้งจังหวัดชลบุรี จังหวัดตราด รวมถึงจังหวัดระยอง เตรียมเสนอการปลดล็อกพื้นในจังหวัดของตัวเองให้พ้นพื้นที่สีแดงเข้มต่อศบค.
นายกรวร์ กล่าวว่า “ก่อนอื่นผมต้องย้ำอีกครั้งว่าการประกาศว่าพื้นที่ใดเป็นสีอะไร หรือการทำงานของหน่วยงานใหญ่อย่างศบค. เพราะเชื่อว่ามีหลายองค์ประกอบที่ทำให้ต้องตัดสินใจว่าเหตุใดจังหวัดนั้นต้องเป็นสีอะไร ส่วนกรณีที่บางจังหวัดเริ่มที่เสนอให้ลดความเข้มของสีในจังหวัดตัวเองนั้นเป็นหน้าที่ของแต่ละจังหวัดว่าจะนำเสนอให้ศบค.พิจารณา”
“ถ้าหากศบค. พิจารณาแล้วเห็นว่าบางจังหวัดสมควรลดความเข้มของสีลงได้ ผมยินดีอย่างยิ่ง เพราะเราต้องยอมรับความจริงและเห็นใจจังหวัดที่ยังเป็นสีแดงเข้มในหลายจัดหวัดไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มานานพอสมควร เมื่อศบค.เห็นชอบให้ลดความเข้มของสีแต่ละพื้นที่นั่นย่อมส่งผลต่อฟุตบอลลีกไทย เพราะบางสโมสรอาจจะได้เล่นในบ้านของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ผมเอาใจช่วย แต่ทั้งนี้รูปแบบการแข่งขันที่จะกลับมาเตะอีกครั้ง เราเตรียมไว้สำหรับมาตรการของศบค. ในขณะนี้ และหากมีการเปลี่ยนแปลงเราพร้อมที่เปลี่ยนคำสั่งรูปแบบการจัดแข่งขันเช่นเดียวกัน”
ทั้งนี้ปัจจุบัน ศบค. ประกาศให้ 5 จังหวัดอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ประกอบด้วย สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทำให้สโมสรที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวต้องหาสนามอื่นเล่นในฐานะเจ้าบ้าน เนื่องจากศบค. ยังไม่อนุญาตให้จัดแข่งขันกีฬาในพื้นที่ได้ โดยสโมสรที่รับผลกระทบประกอบด้วย ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร, ชลบุรี เอฟซี, ระยอง เอฟซี, ราชนาวี และ ตราด เอฟซี
