นายใหญ่กว่างโซ้ง อย่าง มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาทีมสิงห์ เชียงราย เสนอแนวคิดศบค. ควรเปิดโอกาสให้แฟนบอลเข้าชมเกมไทยลีก โดยแบ่งตามโซนสีเรื่องความเสี่ยง
นายใหญ่กว่างโซ้ง อย่าง มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาทีมสิงห์ เชียงราย เผยแนวคิดน่าสนใจกับการที่ฟุตบอลลีกอาชีพจะกลับมาลงสนามอีกครั้งว่า ศบค. ควรพิจารณาให้แฟนบอลเข้าชมเกมในสนามได้สำหรับสโมสรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดที่มีความเสี่ยงในการระบาดต่ำ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ปลดล็อกให้การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1-3 กลับมาแข่งขันได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยจะมีเกมเบิกร่องทดสอบระบบการแข่งขันแบบปิดก่อน คือเกมตกค้างของ “โตโยต้า ไทยลีก 2020/21” เลกแรก ระหว่าง “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด จะลงเล่นกับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ที่สิงห์ สเตเดียม ในวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม เวลา 18.30 น. ถ่ายทอดสดทางเอ็นบีที นั้น
“เสี่ยฮั่น” นายมิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาทีมสิงห์ เชียงราย กล่าวถึงความพร้อมต่างๆ ว่า ตอนนี้ทีมพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ นักเตะมีความฟิตพร้อมทุกคน ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บใดๆ โดยมีติดโทษแบนเพียง 2 คนเท่านั้นคือ วสันต์ ฮมแสน กับ ชินภัทร์ ลีเอาะ
นายมิตติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมานั้นได้ซ้อมแบบปกติกันมาตลอด ถึงแม้ว่านัดสุดท้ายที่ได้ลงเล่นคือเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ที่เป็นช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย แต่คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงอุ่นเครื่องกับทีมระดับไทยลีก 2 ไปหนึ่งนัด คิดว่าทุกอย่างโอเค เป็นไปได้ด้วยดีหมด
“แน่นอนว่าเป้าหมายของเราอยากจะทำแต้มขึ้นไปติด 1 ใน 2 ให้ได้เป็นอย่างน้อย เพื่อที่จะได้ไปเล่นในเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ เป็นอย่างน้อยอีกปีหนึ่ง ส่วนฟุตบอลถ้วยอย่างช้าง เอฟเอ คัพ ยังคงมีเป้าหมายเดิมคือเป็นแชมป์ให้ได้”
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการแข่งขันแบบปิดนั้น ประธานที่ปรึกษาสิงห์ เชียงราย กล่าวว่า คิดว่ามาตรการต่างๆ ที่จะนำมาใช้ควรจะติดตามดูกันให้ละเอียดและถี่ถ้วนกว่านี้ เพราะทุกวันนี้มาตรการของศบค. ไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในจังหวัดต่างๆ ทำให้หลายธุรกิจนั้นเสียโอกาส อย่างจังหวัดเชียงราย นับตั้งแต่เกิดการระบาดระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อแค่คนเดียวเท่านั้น ดังนั้นคิดว่าควรจะใช้ชีวิตให้เป็นปกติ แข่งขันแบบเปิดโดยคิดตามความจุของสนามน่าจะเป็นเรื่องดี ช่วยให้ทั้งสโมสรและประชาชนที่ทำมาหากินแถวสนามได้มีโอกาสสร้างรายได้
“ผมมองว่าควรจะมอนิเตอร์เป็นจังหวัดไป ทุกวันนี้แต่ละจังหวัดพยายามเพลย์เซฟกันหมด แต่คนในจังหวัดลำบากเช่นกัน”
นายมิตติ กล่าวเสริมว่า การนำมาตรการเหมือนอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่แบ่งเป็นระบบเรื่องความเสี่ยงการติดเชื้อ (เทียร์) เป็นแนวคิดที่ดี แต่ที่อังกฤษเขามีการปรับเปลี่ยนกันตลอด เป็นรายวัน รายสัปดาห์ แต่ของไทยนั้นอาจจะสัก 2 สัปดาห์หรือ 1 เดือน แต่มีความชัดเจนว่าเทียร์นี้คนเข้าได้กี่เปอร์เซ็นต์ จะทำให้สโมสรทำงานได้ง่าย ดังนั้นอยากฝากเสียงจากสโมสรไป
ขณะที่การแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ในเดือนเมษายน ที่ทำให้สิงห์ เชียงราย อาจจะต้องเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ ที่มีการกักตัว 14 วันก่อนแข่ง รวมถึงกลับมาต้องกักตัวอีก 14 วันนั้น เสี่ยฮั่น กล่าวว่า ต้องรอดูสถานการณ์อีกที เพราะทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ยังไม่ได้กำหนดออกมาชัดเจน แต่คิดว่าไม่น่าจะได้ไปแข่งที่เกาหลีใต้ เพราะทีมที่เข้ารอบต้องเล่นรอบแบ่งกลุ่มในสัปดาห์ถัดไป คิดว่าน่าจะปรับมาใช้สนามกลางมากกว่า
