เรียนตามตรงไม่ทราบยังจะมีท่านใดสนใจ ติดตามเรื่องราวเหล่านี้อยู่หรือไม่ ?? เดิมทีผมตั้งใจ จะเขียนเรื่องราวคร่าวๆของ มิสเตอร์ “เอ็ดเวิร์ด ตังคะราชา” ผู้ล่วงลับ ก็เพียงเพราะ ผมเคยได้รับ กรอบรูปเข็มกลัดสะสม อันเป็นมรดกของท่านสมัยยังมีชีวิต ผ่านความเอื้อเฟื้อมาจาก คุณสุรพจน์ พงษ์จิวาณิช ผู้ดูแลและเป็นคนสนิท

จนทำให้นึกถึง และอยากตอบแทนคุณจึงอยากถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังที่สนใจได้รับรู้ เรื่องราวต่างๆของท่านที่เกียวเนื่องกับ วงการมวยโลกเมืองไทย ในยุคราวๆช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
ทว่าจากบทความสั้นๆ เกี่ยวพันกับ “บิ๊กอึ่ง” คุณสมภพ ศรีสมวงศ์ รวมไปจนถึงบุคคลสำคัญๆ หลายๆท่านในประวัติศาสตร์ ที่ผมได้รับรู้ได้สัมผัสด้วยตัวเอง จึงนำมาซึ่งการต่อยอด กลายเป็นซีรี่ส์เรื่องยาวจนถึงปัจจุบัน…

สำหรับความเดิมตอนที่แล้ว เป็นเพียงแค่จุด”เริ่มต้น”ที่มาของ สด จิตรลดา แชมป์โลกชาวไทยคนที่ 8 เท่านั้น ซึ่งหากจะเรียงลำดับตามประวัติศาสตร์ ภายใต้เส้นทางสร้างมวยของ “บิ๊กอึ่ง” สมภพ ศรีสมวงศ์ และ ผู้สนับสนุนอย่าง มร.เอ็ดเวิร์ด แล้ว จำเป็นต้องท้าวความกล่าวถึง เรื่องราวของเขา

….. “พเยาว์ พูลธรัตน์” หรือ “ไอ้จ้อน” !!


จะเป็นด้วยสื่อต้องการอวดความคุ้นเคย หรือ สมัยนิยมที่คนรุ่นเก่าชอบ จิกหัวใช้เรียกคำว่า”ไอ้” ก็เหลือจะเดา

“ไอ้จ้อน” หรือ พเยาว์ พูลธรัตน์ ถือเป็น นักมวยรายแรกที่ประสบความสำเร็จ และสร้างประวัติศาสตร์ให้กับชาติไทยในอีกหน้าหนึ่งของวงการกีฬา !!

เริ่มจาก เด็กบางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ มีกระดูกชกมวยไทย แต่ฉายแววดีในเชิงสากลสมัครเล่น เพียบพร้อมด้วยดีกรี แชมป์มวยคิงส์คัพ (สมัยนั้นยอดฮิต และมีมนต์ขลังจริง) ได้เหรียญเงิน มวยสมัครเล่นโลก จนเป็นใบเบิกทางในนามทีมชาติ


ไอ้จ้อน ไปสร้างประวัติศาสตร์หน้าแรก ด้วยการ คว้าเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 1976 ที่ มอนทรีล แคนาดา ว่ากันว่า ถ้าไม่คิ้วแตกหน้าแหกเสียก่อน ก็คงไม่แพ้มวยเกาหลีง่ายๆในรอบก่อนรองฯเป็นแน่ แต่นั่นก็ถือเป็น “เหรียญแรกของไทย” ในมหกรรมกีฬาใหญ่สุดของมนุษยชาติให้ได้จดจำกัน

พเยาว์ ได้เหรียญทองแดงวันนั้น ด้วยวัยเพียง 19 ปี วันเดินทางกลับถึงเมืองไทย “MAIN STAND”บันทึกไว้ 7 ส.ค.2519 ขนาด “เจ้าพ่อสื่อใหญ่ยักษ์เขียวเมืองไทย” กำพล วัชรพล ยังส่งรถเชฟโรเลตเปิดประทุน “อิมพาลา” ไปรับถึงบันไดเครื่องบินที่ดอนเมือง แห่แหนวีรบุรุษของไทยอย่างยิ่งใหญ่ เสียดายตรงที่ ไอ้จ้อน เกิดเร็วไปเพราะยุคนั้นได้แต่กล่อง (ยังไม่มีเงินรางวัลล่อใจเป็นเศรษฐีพริบตาได้เหมือนสมัย สมรักษ์ คำสิงห์ ,มนัส บุญจำนงค์ ฯลฯ ในเวลาต่อมา)

พเยาว์ วันเดินทางกลับถึงไทย หลังคว้า เหรียญทองแดงเหรียญแรก ในโอลิมปิกเกมส์ ในประเทศไทย ปี พ.ศ.2519 เมื่ออายุได้ 19 ปี

 

พเยาว์ เป็นมวยของ ธรรมนูญ วรสิงห์ หัวหน้าคณะผู้เคยปั้น เนตรน้อย ส.วรสิงห์ (แชมป์โลก คนที่ 6) หลังสลัดเสื้อกล้าม หันมาเทิร์นโปรสากลอาชีพ ปี 1981 ยืมจมูกชาวต่างชาติ “ไอ้ก้าวยาว” จูน ซาเรียล ลูกชายเฒ่าปิศาจ “ปาป้า” โลเป ผู้พ่อ ซึ่งยุคสมัยนั้น คนไทยเรายังต้องใช้บริการฟิลิปปินส์ เป็นนายหน้าค้ามวยต่างประเทศ พาไปชิงแชมป์ภาค ตะวันออกไกล OPBF รุ่น 115 ปอนด์ ที่ กรุงโซล (หรือ เซอูล สมัยนั้น) ในปี 1983

ข่าวยุคนั้นไม่มี youtube แต่ว่ากันว่า “ไอ้จ้อน” ต่อยได้นับ 8 ทว่าครบ 12 ยก กลับแพ้คะแนนลงมาตามประสา มวยคลั่งชาติชาวโสมสมัยนิยม ในยุคสมัยที่ ใครไปชิงหรือป้องกันมักตายเรียบ ก่อนจะถึงยุค เขาทราย แกแล็คซี่ ไปทำลายอาถรรพ์ !! ทุบ ชาง โฮชอย แดดิ้นสิ้นสภาพ ยก 8 (อย่าไปเชื่อ บ๊อกเร็ค ยังบันทึกผิด เป็นยก 7)

หลังผิดหวังกลับมา พเยาว์ จึงเข้ามาอยู่ในอุปการะคุณของ “บิ๊กอึ่ง” นายสนามมวยเวทีช่อง 7 สี ที่กำลังสร้างพาเวอร์ หามวยดี โดยมี มร.เอ็ดเวิร์ด นี่แหละ เป็นตัวช่วยประสาน สภามวยโลก กระทั่ง “ป๋าโฮ” โฮเซ่ สุไลมาน ประธานใหญ่ไฟเขียวให้ ไทยได้จัดศึกชิงแชมป์โลก
และสร้างบันทึกประวัติศาสตร์อีกหน้า เมื่อ พเยาว์ เอาชนะคะแนน ราฟาเอล โอโรโน่ ที่สื่อรุ่นเก่าเคยเรียกขาน “ไอ้หัวเถิกง่ามถ่อ” จากเวเนซุเอล่า แย่งแชมป์ ซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) WBC ไปได้อย่างไม่เอกฉันท์ ในการชกที่ โรงแรมแกรนด์ พาเลซ พัทยา เมื่อคืนวันที 27 พ.ย.2526 (พเยาว์ชนะ 116-112 (วินซ์ เดลดาโก้) ,116-112 (มาร์ตี้ เดนกิ้น) และ 113-115 (ชัก ฮัสเซ็ตต์)

ราฟาเอล โอโรโน่ แชมเปียนโลก WBC คนแรกของ รุ่น ซูเปอร์ฟลายเวต สภามวยโลก

โดยพเยาว์ มีอายุได้ 26 ปี ใช้เวลาเทิร์นโปรเพียงแค่ไม่ถึง 2 ปี กลายเป็น แชมเปี้ยนโลกขวัญใจชาวไทยคนที่ 7 ทิ้งช่วงที่เมืองไทยร้างห่างจาก แชมป์โลกให้เชยชมมานานเกือบ 6 ปี นับตั้งแต่ แสนศักดิ์ เมืองสุริทร์ (แชมป์โลกคนที่ 5) เสียเข็มขัดโลกไปเมื่อปลายปี 2521

“บิ๊กอึ่ง” สมภพ ศรีสมวงศ์ นายสนามมวยช่อง 7 สี และ โปรโมเตอร์ มวยโลก

หลังการชกครั้งนั้น แม้ทาง ทีมงาน โอโรโน่ โวยวายว่าจะฟ้องกลับไปยังสภามวยโลก รวมทั้งขอเทปบันทึกภาพ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ช่อง 7 สี ลูกน้องบิ๊กอึ่งเองแท้ๆ ก็ยัง(เสือก)ใจดีก๊อปปี้เป็นหลักฐานไปให้ก่อนขึ้นเครื่องกลับ หนำซ้ำสื่อไทยก็ยังไปรู้ลึกอีกด้วยว่า เทป(วิดิโอ) ม้วนนั้นดันมีภาพสโลโมชั่นทุกช็อต ตอนไอ้จ้อนโดนอัดกระเด็นกระดอน ไปดูกันชัดๆให้อีกด้วย !!

มิสเตอร์ เอ็ดเวิร์ด ตังคะราชา ชาวศรีลังกา กรรมการจัดอันดับ สภามวยโลก WBC

แต่ท้ายที่สุด สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ “ป๋าโฮ” คนโต สภามวยโลก ไม่รับคำร้องของโอโรโน่ จนทำให้ประเด็นแก้มือนั้นตกไป นั่นก็เผยให้เห็นถึง ความสัมพันธ์ระดับ “ซี้ย่ำปึ๊ก” ของทีมงานผู้จัดชาวไทย คือ บิ๊กอึ่ง และ มร.เอ็ดเวิร์ด ว่าเป็นของจริง สนิทสนมกับคนโตสภามวยโลก แค่ไหน !!??

ด้วยเหตุนี้ ต่อมาในภายหลัง โอโรโน่ จึงหันเหเปลี่ยนเข็ม ไปชิง สมาคมมวยโลก WBA และโดน “พี่ระ”เขาทราย ทุบเสียจนมึน ต้องหันหลังหนีกลับเข้ามุมยอมแพ้ดื้อๆหมดทางสู้ยกที่ 5 ในเวลาต่อมา (ปี ค.ศ.1985) นั่นเอง

เรื่องราวเบื้องหลัง ของสองบุคคลผู้มีส่วนสำคัญ ในการผลักดันแชมเปี้ยนโลกชาวไทย ยังมีอีกเยอะ ขอเก็บไว้ถ่ายทอดในลำดับต่อไป …. กราบสวัสดี

บทความกีฬา ข่าวสด : รำลึกโลกกำปั้น “สาวสังเวียน กับ สอดสร้อย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน