ม้าลายดวลปอร์โตถึงช่วงต่อเวลา ก่อนจบเกมเฉือนชนะหวุดหวิด แต่ตกรอบเพราะกฎประตูทีมเยือน ส่วนเสือเหลืองเจ๊าเซบียา ประคองตัวผ่านเข้ารอบยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เมื่อวันที่ 9 มีนาคม “ม้าลาย”ยูเวนตุส จากอิตาลี เปิดสนามอัลลิอันซ์ สเตเดียม รับการมาเยือนของปอร์โต จากโปรตุเกส
- คล็อปป์ ปฏิเสธทิ้ง หงส์แดง ข้ามฟากคุม ทีมชาติเยอรมัน แทนที่ เลิฟ
- มาห์เรซ ผลงานเข้าตา! ซีดาน สนดึงร่วมทัพเรอัล มาดริด
- สื่อเผย ลิเวอร์พูล ไม่คว้า โอซาน คาบัก ร่วมทัพถาวร
เกมนี้ยูเวนตุสจัด คริสเตียโน โรนัลโด, อัลบาโร โมราตา, เฟเดริโก เคียซา ลงสนาม ส่วนปอร์โตใช้งาน เมห์ดี ทาเรมี, มุสซา มาเรกา, แซร์จิโอ โอลิเวรา
เริ่มเกมมา 3 นาที ยูเวนตุสน่าขึ้นนำสุดๆ ฮวน กวาดราโด เปิดจากกราบขวาโค้งเข้าเขตโทษให้ อัลบาโร โมราตา โฉบมาโขกเต็มหัว อกุสติน มาร์เชซิน เซฟได้เหลือเชื่อ
นาที 6 ไซดู ซานูซี หลุดมาทางริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย แล้วตบให้ เมห์ดี ทาเรมี ยิงติดแนวรับ บอลลอยมาให้ทาเรมีโหม่งซ้ำก็ไปชนคานเสียอีก ปอร์โตชวดได้ประตู
นาที 12 เมห์ดี ทาเรมี จะเล่นบอลในเขตโทษแล้วโดน เมห์ดี เดมิเรล เข้าปะทะล้มลง แซร์จิโอ โอลิเวรา รับหน้าที่สังหารจุดโทษไม่พลาด ปอร์โตนำ 1-0
นาที 27 ยูเวนตุสมีลุ้นตีเสมอ ฮวน กวาดราโด เปิดจากกราบขวาลอยไปเสาสองถึง อัลบาโร โมราตา พักบอลลงแล้วยิงมุมแคบ อกุสติน มาร์เชซิน ยังขยับออกมาบล็อกทัน จบครึ่งแรกปอร์โตยังนำ 1-0
ครึ่งหลังนาที 49 เลโอนาร์โด โบนุชชี หยอดบอลเข้าเขตโทษ คริสเตียโน โรนัลโด พักบอลลงแล้วปล่อยให้ เฟเดริโก เคียซา เป็นคนยิงเสียบตาข่าย ยูเวนตุสตีเสมอ 1-1
นาที 54 ปอร์โตต้องเหลือ 10 คน เมื่อเกิดจังหวะทำฟาวล์บริเวณกลางสนาม เมห์ดี ทาเรมี ดันไปหวดบอลทิ้งให้ห่างจากที่เกิดเหตุ จึงรับใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดง
นาที 56 ยูเวนตุสเกือบขึ้นนำ จากบอลเปิดข้ามแนวรับเข้าเขตโทษ เฟเดริโก เคียซา โฉบเข้าไปเลี้ยงผ่านนายทวารได้แล้ว แต่จังหวะยิงโดน เปเป ตามมาปะทะไว้พอดี บอลเลยกลิ้งไปชนเสา
นาที 63 ฮวน กวาดราโด ได้บอลเยื้องไปทางกราบขวาแล้วเปิดเข้าหน้าประตู เฟเดริโก เคียซา โฉบมาโขกเต็มหัวเสียบตาข่าย ยูเวนตุสแซงนำ 2-1
นาที 90+1 อาร์ตูร์ เปิดบอลจากกลางสนามข้ามแนวรับให้ อัลบาโร โมราตา หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านนายทวาร แต่โมราตาล้ำหน้าไปก่อน ยูเวนตุสชวดประตูนี้
นาที 90+3 เจ้าถิ่นพลาดประตูอีกครั้ง ฮวน กวาดราโด ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวา แล้วเลี้ยงผ่านแนวรับจนได้เข้ามายิงในเขตโทษ บอลพุ่งผ่านมือนายทวารไปชนคานเสียอีก จบเกมยูเวนตุสชนะ 2-1 สกอร์รวมเสมอ 3-3 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก
ช่วงต่อเวลานาที 115 ปอร์โตได้ฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา แซร์จิโอ โอลิเวรา ยิงเรียดลอดกำแพงพุ่งตรงกรอบ วอยเช็ก เชสนี เซฟไม่อยู่ทะลักเข้าประตูไป สกอร์เสมอกัน 2-2
นาที 117 ยูเวนตุสได้เตะมุมฝั่งซ้าย เฟเดริโก แบร์นาร์เดสคี เปิดเข้ามาให้ อาดริยอง ราบิโอต์ ขึ้นโขกตุงตาข่าย เจ้าถิ่นนำอีกรอบ 3-2
จากนั้นไม่มีประตูเพิ่มอีก จบเวลา 120 นาที ยูเวนตุสชนะ 3-2 สกอร์รวมกลายเป็น 4-4 แต่ปอร์โตเข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน
ส่วนอีกคู่ “เสือเหลือง”โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ จากเยอรมนีเปิดสนามซิกนัล อิดูนา ปาร์ก รับการมาเยือนของเซบียา จากสเปน เกมแรกเซบียาแพ้คารัง 2-3
ครึ่งแรกนาที 35 มาร์โก รอยส์ หลุดเข้าด้านซ้ายของเขตโทษ แล้วปาดบอลหนีนายทวารให้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ยิงเข้าไปง่ายๆ ดอร์ตมุนด์นำ 1-0
ครึ่งหลังนาที 48 เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ทำชิ่งกับเพื่อนจนหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนจะได้เข้าไปยิงมุมแคบตุงตาข่าย แต่เมื่อดูวีเออาร์แล้ว ผู้ตัดสินมองว่าฮาลันด์ทำฟาวล์คู่แข่งก่อน ดอร์ตุมนด์ชวดประตูนี้ไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินได้มองย้อนไปเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ฮาลันด์โดนดึงล้มในเขตโทษด้วย จังหวะนี้จึงเป็นจุดโทษของดอร์ตมุนด์ ฮาลันด์สังหารติดเซฟนายทวาร แต่ผู้ตัดสินก็ให้ยิงใหม่เพราะนายทวารขยับตัวออกนอกเส้นก่อน หนนี้ฮาลันด์ยิงไม่พลาดเป็น 2-0
นาที 67 ลุก เดอ ยอง ถูกดึงล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินจึงให้จุดโทษแก่เซบียา ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี สังหารเสียบตาข่าย ทีมเยือนไล่มาเป็น 1-2
นาที 90 อิวาน ราคิติช ได้บอลทางกราบขวาแล้วเปิดเข้ากลางให้ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี โขกเต็มหัวไม่เหลือซาก จบเกมจึงเสมอกัน 2-2 ดอร์ตมุนด์เข้ารอบผลรวม 5-4
