“เเม่ยักษ์” นักวิ่งเเฟนซี สร้างสีสัน ร่วมวิ่งส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยเป็นวันวันที่ 12 ของงาน”วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ปลื้ม! เเม้วิ่งเพียง 1 กม. เเต่มีความสุขมากที่สุด ด้านหนุ่มวัย 30 สปิริตเเรง แม้มีอาการเอ็นเข่าฉีก เเต่ไม่ถอนตัว ขอร่วมวิ่งส่งเเรงเชียร์จนทำภารกิจสำเร็จ ทำให้ผ่าน 12 วัน วิ่งแล้ว 9 จังหวัด สะสมระยะทางรวม 971.9 กม

ความเคลื่อนไหวของกิจกรรมประวัติศาสตร์ “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งต่อกำลังใจจากพี่น้องประชาชนคนไทยให้กับทัพนักกีฬาไทย ผ่านการวิ่งคนละ 1 กม. ต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด รวมระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโตเกียว ล่าสุดเมื่อ 8 เม.ย.64 เข้าสู่วันที่ 12 ของการจัดกิจกรรมเเล้ว โดยเป็นการวิ่งจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ไป จ.สงขลา

ภารกิจวันที่ 12 ระยะทางรวม 74.9 กม. จากจุดสตาร์ทสำนักงานเทศบาลตำบลหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ไปโรงเรียนวัดบ่อเเดง จ.สงขลา ได้รับเกียรติจากนายสมโชค เสนา ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) ปลัดอาวุโส อำเภอหัวไทร ทำหน้าที่แทนนายอำเภอหัวไทร เป็นผู้ส่งมอบธงให้กับนักวิ่งคนเเรก

สำหรับกิจกรรมวิ่งธงชาติไทยวันที่ 12 ในช่วงเช้า ทีมนักวิ่งธงชาติไทยได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าจาก อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ไป อ.ระโนด จ.สงขลา ซึ่งตลอดข้างทางทีมนักวิ่งได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์เเละวิวกังหันลมเเละทะเลที่สวยงาม ก่อนที่ในช่วงสาย กลุ่มพนักงานบริษัท โตโยต้า อ.ระโนด จะออกมาตั้งเเถวรอต้อนรับส่งดอกไม้ พร้อมมอบน้ำให้กับนักวิ่งเเละทีมงานจัดกิจกรรม ซึ่งนับว่าเป็นภาพบรรากาศสุดงดงามที่เกิดในกิจกรรมวันที่ 12

อีกหนึ่งไฮไลต์ของวันอยู่ในกม.ที่ 937 เมื่อ “เเอน” ธิดารัตน์ มีบัณฑิต เจ้าของธุรกิจส่วนตัว อายุ 38 ปี หรือที่นักวิ่งที่ชาวสงขลาชอบเรียกว่า “เเม่ยักษ์” จัดเต็ม เเต่งชุดเเฟนซี วิกผมสีเหลือง กระโปรงชมพูสีสดใส ลงถนนวิ่งโบกสะบัดธงไตรรงค์ สร้างสีสันพร้อมเรียกรอยยิ้มจากพี่น้องประชาชนข้างทาง ที่ออกมาส่งกำลังใจได้เป็นอย่างมาก

“แอน” ธิดารัตน์ หรือ “เเม่ยักษ์” เผยว่า ตนทั้งปลื้มใจเเละตื่นเต้นที่ได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวิ่งผลัดธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจไปให้นักกีฬา เป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่สำหรับตนเองเเละนักวิ่งอีกหลายๆ ท่านที่ได้เข้าร่วม วันนี้ 1 กม.ของตน เทียบกับ 50 กม.ที่เคยวิ่งสำเร็จมาเเล้ว ยังไม่ตื่นเต้น ตื้นตัน เเละรู้สึกมีความสุขเท่ากับการวิ่งเพื่อส่งกำลังใจไปให้นักกีฬาในวันนี้เลย ส่วนชุดเเฟนซีที่เเต่ง ปกติชอบเเต่งวิ่งอยู่เเล้วค่ะ ก็เลยเเต่งมาร่วมวิ่งธงชาติในครั้งนี้ด้วย ส่วนที่เเต่งเพราะก็อยากให้ตัวเรา รวมถึงคนอื่นๆ ที่เห็นได้มีรอยยิ้ม ได้สนุก เเละเฮฮาไปกับเรา

ขณะที่ รัชธร อินทรีย์ อายุ 30 ปี ซึ่งเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวิ่งธงชาติไทยในวันที่ 12 ด้วย ถึงเเม้ว่าร่างกายจะไม่เต็มร้อย เพราะมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าซ้าย เเละกำลังรอทำการผ่าตัดอยู่ เผยว่า ส่วนตัวภูมิใจที่ได้ออกมาเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเเรงใจเเรงเชียร์ไปให้กับนักกีฬาไทยในโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น อาการบาดเจ็บไม่เป็นปัญหา วันนี้วิ่งได้เบาๆ ซึ่งก็ถือว่าผ่านไปได้สำเร็จ สำหรับตนขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยคว้าเหรียญทองกลับมาเยอะๆ เเละอยากให้ชาวไทยส่งกำลังใจไปเชียร์ทัพนักกีฬาไทย

นายสมโชค เสนา ปลัดอาวุโส อำเภอหัวไทร เปิดเผยว่า ตนมองว่ากิจกรรมครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่ดีมากๆ ที่จะเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยออกมาร่วมส่งเเรงใจไปให้กับทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเเละพาราลิมปิกเกมส์ ซึ่งตนก็มองว่าเป็นกิจกรรมสร้างการรับรู้ที่มีพลังเเละสร้างกำลังใจชั้นดีให้กับนักกีฬาไทยทุก และขอฝากไปถึงนักกีฬาไทยทุกคน ขอให้ท่านมุ่งมั่นตั้งใจทำการฝึกซ้อม เเละเเข่งขัน นำชัยชนะเเละเหรียญรางวัลกลับมาฝากพี่น้องคนไทย ซึ่งพี่น้องคนไทยเฝ้าร่วมติดตามชม เเละส่งกำลังใจเชียร์ทุกท่านอยู่ ขอให้ทุกท่านได้ต่อสู้เพื่อนำชัยชนะกลับมาฝากพี่น้องคนไทยต่อไป

ทั้งนี้กิจกรรมในวันที่ 12 มาสิ้นสุดลงที่ โรงเรียนวัดบ่อเเดง จ.สงขลา โดยตลอดทั้งวันพี่น้องนักวิ่งคนไทยช่วยกันวิ่งเก็บระยะทางเพิ่มได้อีก 74.9 กม. ทำให้ผ่าน 12 วัน วิ่งไปเเล้ว 9 จังหวัด ระยะทางรวม 971.9 กม. โดยในวันศุกร์ ที่ 9 เม.ย.64 วันที่ 13 ของการวิ่งผลัดธงชาติไทย จะออกสตาร์ทจากโรงเรียนบ่อเเดง จ.สงขลา ไปยัง สำนักงานการกีฬาเเห่งประเทศไทย ภาค 4 ในอ.เมือง จ.สงขลา ระยะทางรวม 65.6 กม.

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรม รับชมการไลฟ์สด พร้อมร่วมคอมเมนต์ส่งกำลังใจให้กับอาสาสมัครนักวิ่งพี่น้องคนไทยเเละนักกีฬาไทยได้ที่เฟซบุ๊ค “Road to Tokyo 2020” ตลอดทั้งวัน รวมถึงสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมได้ที่ www.stadiumth.com เเละเฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/THStadium/

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน