ค้างคาวมหากาฬ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด น้องใหม่ไทยลีก 2 พอยิ้มออก เมื่ออบจ.กาญจนบุรี ชะลอแผนปรับปรุงสนามกลีบบัว บางส่วน เปิดให้ทีมใช้เป็นรังเหย้าในเลกแรกได้
ค้างคาวมหากาฬ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ส่อเค้าต้องตกชั้นไปเล่นในระดับอเมเจอร์ลีก แม้เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นไทยลีก 2 เนื่องจากไม่สามารถหาสนามเหย้าในจังหวัดของตัวเองได้ เพราะสนามอบจ.กาญจนบุรี จะปิดปรับปรุงรองรับกีฬาแห่งชาติ ปี 2565
อย่างไรก็ตามจากการประชุมร่วมระหว่างสโมสรอบจ.กาญจนบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงสนาม และสโมสรเมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวในการประชุมว่าการปรับปรุงสนามอบจ.กาญจนบุรี (สนามกลีบบัว) จะแบ่งเป็น 2 เฟสใหญ่ โดยเฟสแรกจะเริ่มจากการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกภายนอกสนาม ซึ่งช่วงนี้สโมสรเมืองกาญจน์ อาจจะสามารถใช้งานสนามได้ แต่ในเฟส 2 ซึ่งจะมีการปรับโครงสร้างใหญ่ของสนามนับตั้งแต่ปลายปีนี้จนถึงกลางปีหน้าสโมสรจำต้องหาสนามอื่นใช้งานไปก่อน
“จากแปลนการปรับปรุงสนามประกอบกับจำนวนแมตช์การแข่งขันฟุตบอลของสโมสรเมืองกาญจน์ ทำให้เชื่อว่าในช่วงเลกแรกทีมน่าจะใช้สนามนี้เป็นสนามเหย้าได้ เนื่องจากยังไม่เริ่มปรับเรื่องภายในทั้งเก้าอี้ ลู่วิ่งมากนัก ส่วนเลกสองซึ่งจะตรงกับการปรับปรุงหลักคงเป็นเรื่องยากที่จะใช้สนามได้ ดังนั้นสโมสรต้องหาสนามอื่นเป็นทางเลือกในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง”
“กาญจนบุรี ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งชาติในปี 2565 และเราจำเป็นต้องปรับปรุงสนามครั้งใหญ่เพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่การกีฬาแห่งประเทศไทยกำหนด ขณะเดียวกันสโมสรเมืองกาญจน์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัด เราพร้อมให้การสนับสนุนทุกด้านที่ทำได้ หวังว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจการทำงานของอบจ.”
ขณะที่ นายอภิวัฒน์ คณากรณ์ ประธานสโมสร เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “ฟุตบอลไทยลีก 2 ในเลกแรกนั้นจะเตะระหว่าง วันที่ 31 ก.ค. – 28 พ.ย. ซึ่งคาบเกี่ยวกับขั้นตอนการปรับปรุงสนามในเฟสที่สอง จึงอยากขอให้ฟุตบอลเลกแรกจบไปก่อนจึงค่อยเริ่มการปรับปรุงในเฟนสอง”
“สิ่งที่เราต้องปรับปรุงเพื่อรองรับมาตรฐานการแข่งขันจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) เรื่องไฟส่องสว่างทางสโมสรพร้อมที่จะดำเนินการติดตั้งเอง แต่ยังต้องคุยกับฝ่ายกฎหมายของอบจ.ว่าเราสามารถทำได้หรือไม่ หากทำได้เราจะเริ่มเพิ่มไฟส่องสว่าง เมื่อการปรับปรุงสนามเฟสสองเริ่มขึ้นเราจะถอดไฟที่ติดตั้งไว้ออกเอง”
“ขณะที่ในห้องแต่งตัวนักกีฬาตามมาตรฐานจะต้องมีห้องน้ำ 4 ห้อง และห้องส้วมอีก 4 ห้อง โดยสนามกลีบบัว มีห้องส้วมเพียง 3 ห้อง ดังนั้นเราจึงอนุญาตสร้างห้องส้วมเพิ่มอีก 1 ห้อง ซึ่งเรืองทั้งหมดจะนำเสนอต่อบริษัท ไทยลีก จำกัดอีกครั้ง ว่าเราสามารถยื่นขอใบอนุญาตแข่งขัน (คลับ ไลเซนซิง) ได้หรือไม่”
