สมาคมลูกหนัง ยืนยันการที่นักเตะทีมชาติไทยอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีราทร บุญมาทัน จะไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 จะไม่กระทบกับการลงเล่นในบอลโลก รอบคัดเลือก

สมาคมลูกหนัง ได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขอให้นักเตะและทีมงานสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่จะต้องเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้รับวัคซีนโควิด-19 โดยเมื่อ 21 เม.ย. นักกีฬา สต๊าฟโค้ช และเจ้าหน้าที่ทีม ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน ป้องกันเชื้อโควิด-19 เข็มแรก ที่สถาบันบําราศนราดูร

อย่างไรก็ตามยังมีนักเตะบางคนที่ไม่ได้เข้าร่วมกับรับวัคซีนดังกล่าวเนื่องจากกลับบ้านต่างจังหวัดไม่ได้อยู่ในพื้นที่ในวันที่เปิดให้เข้าฉีด โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยืนยันว่าไม่กระทบกับการเตรียมทีมแต่อย่างใด

นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “ก่อนอื่นผมต้องแจ้งให้ทราบชัดเจนเกี่ยวกับการรับวัคซีน เนื่องจากวัคซีนของประเทศไทยเรายังมีน้อย และสมาคมได้ร้องขอให้กับทีมชาติไทยที่ต้องไปแข่ง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายผู้เล่นเรา เราไม่สามารถเลือกวันฉีดเองได้ เมื่อหน่วยงานสาธารณสุขแจ้งให้เราฉีดวันไหน เราต้องไปวันนั้นไม่สามารถเลื่อนได้ ซึ่งการรับวัคซีนเมื่อ 21 เม.ย. จึงมีนักเตะบางคนไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ ทำให้ไม่ได้รับการฉีด แต่ส่วนใหญ่ฉีดเกือบหมด จากจำนวน 60 คนที่เราส่งชื่อไป”

“คนที่ไม่ได้รับวัคซีนจะยังเข้าร่วมฝึกซ้อมตามกำหนดเดิมของ อากิระ นิชิโนะ เนื่องจากก่อนเข้าแคมป์ทีมชาติทุกครั้งจะต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ดังนั้นการจะได้รับวัคซีนหรือไม่จึงไม่มีผลกับการเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทย”

“ส่วนของนักเตะที่ค้าแข้งต่างชาติ ซึ่งมีชื่อใน 47 คนตามประกาศของอากิระ นิชิโนะ ทั้ง เจ (ชนาธิป สรงกระสินธ์) และ อุ้ม (ธีราทร บุญมาทัน) จะไม่ได้รับวัคซีน เนื่องจากต้องเดินทางมาฉีดที่ไทยเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้เราทำอะไรไม่ได้ เพราะถ้าทั้งสองคนกลับมาไทยต้องโดนกักตัวอีก 14 วันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ อุ้ม และ เจ จะเข้ารับวัคซี”

“แม้ว่าทั้ง อุ้ม และ เจ จะไม่ได้รับการฉีดวัคซีน แต่เรื่องนี้ไม่กระทบกับฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เพราะสุดท้ายแล้วนักกีฬารวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ยูเออี ทุก 2 วันอยู่แล้ว และทุกคนที่เดินทางไปยูเออี จะต้องอยู่ในบับเบิลที่เอเอฟซี กำหนดไว้ โดยทั้ง อุ้ม และ เจ จะไม่ต้องมาเข้าแคมป์ทีมชาติที่ประเทศไทย และจะเดินทางไปสมทบกับทีมในการฝึกซ้อมที่ยูเออี”

สำหรับทีมชาติไทยมีกำหนดเดินทางเข้ายูเออี วันที่ 21 พ.ค. มีโปรแกรมอุ่นเครื่องสองนัด พบกับ ทาจิกิสถาน กับ โอมาน โดยวางคิวเตะไว้ในวันที่ 25 และ 29 พ.ค. ส่วนเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ยังเหลืออีก 3 นัด ประกอบด้วย วันที่ 3 มิ.ย. พบอินโดนีเซีย วันที่ 7 มิ.ย. พบยูเออี และวันที่ 15 มิ.ย. พบมาเลเซีย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน