ความเคลื่อนไหวกิจกรรมประวัติศาสตร์ “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งต่อกำลังใจจากพี่น้องคนไทยสู่นักกีฬาทีมชาติไทย ผ่านการวิ่งต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด ระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโตเกียว ล่าสุด 3 พ.ค.ที่ผ่านมา วิ่งต่อเนื่องเป็นวันที่ 37 จาก จ.ลำพูน มายังจ.เชียงใหม่ ระยะทาง 37.6 กม.

สำหรับการวิ่งในวันนี้ยังคงเข้มงวดในเรื่องมาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มต้นออกสตาร์ตจากสนามกีฬากลางจังหวัดลำพูน บรรยากาศสุดคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยได้รับเกียรติจาก นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการ จังหวัดลำพูน ทำหน้าที่เชิญธงชาติไทย ก่อนออกตัววิ่งใน กม.แรกของวันที่ 37 ร่วมกับคณะผู้บริหารในจังหวัด

สำหรับกิจกรรมตลอดทั้งวันยังเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะเกือบตลอดเส้นทางเป็นการวิ่งในพื้นที่ชุมชน วิ่งผ่านแลนด์มาร์คสำคัญๆ ของทั้ง จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ โดยเมื่อขบวนเคลื่อนถึงแยกรินคำ ทาง จ.เชียงใหม่ ได้ขึ้นป้ายแสดงข้อความ “ยินดีต้อนรับต้อนรับนักวิ่งทุกท่าน เข้าสู่เชียงใหม่” เพื่อเป็นกำลังใจให้ทั้งทีมงานและนักวิ่งทุกคน

ทั้งนี้ภารกิจการวิ่งธงชาติไทยในวันที่ 37 พี่น้องนักวิ่งชาวไทยใช้เวลาราว 5 ชั่วโมง ส่งต่อและรับธงชาติไทยกันจนมาถึงสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 5 จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ 21 ที่ขบวนธงชาติไทยเคลื่อนผ่านได้สำเร็จ อีกทั้งยังสะสมระยะทางจากการวิ่งเพิ่มเป็น 2,807 กม.แล้ว

นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ซึ่งร่วมวิ่งในกม.แรกของว่า ออกมาเปิดเผยว่า ถือเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มีโอกาสร่วมวิ่งถือธงชาติไทย ซึ่งเป็นเสมือนศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ก่อนจะนำไปส่งต่อให้นักกีฬาไทย ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักกีฬาทุกคนจะสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จในกีฬาโอลิมปิกให้กับคนไทยและประเทศไทย

ขณะที่ สุพรรณิการ์ แก่นจันทร์ สาวสวยวัย 27 พนักงานต้อนรับภาคพื้นดินของสายการบินแห่งหนึ่ง เผยว่า ทั้งสนุก ตื่นเต้น และภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสได้ถือธงไตรรงค์ผืนใหญ่ลงวิ่งเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยไปแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งตลอดระยะทางการวิ่งแม้จะเหนื่อย แต่ก็คงเทียบกับนักกีฬาทีมชาติที่ต้องใช้ความพยายามและอดทนมากกว่านี้ไม่ได้เลย ซึ่งตนก็อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนประสบชัยชนะและคว้าเหรียญรางวัลจากโอลิมปิกกลับมาฝากพี่น้องชาวไทย

สำหรับกำหนดการวิ่งธงชาติไทยในวันอังคาร ที่ 4 พ.ค. 64 เป็นวันที่ 38 ของกิจกรรม จะเป็นการวิ่งจากสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 5 จ.เชียงใหม่ วกกลับไปยังโรงเรียนบ้านดอยแก้ว จ.ลำพูน ระยะทางรวม 63.7 กม. ซึ่งก็ถือเป็นเส้นทางการวิ่งธงที่จะเป็นประตูมุ่งหน้าไปสู่การวิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยผู้ที่สนใจสามารถรับชมการไลฟ์สดกิจกรรมการวิ่งได้ที่เฟซบุ๊ค Road to Tokyo 2020

ด้านใครที่พลาดงานวิ่งธงชาติไทย สามารถร่วมกิจกรรม “FLAG of Nation Virtual Run” วิ่งเสมือนจริง จากสถานที่ไหน เวลาใดก็ได้ อีกหนึ่งกิจกรรมการส่งต่อกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยในโอลิมปิก ซึ่งจัดคู่ขนานกับการวิ่งผลัดธงชาติไทย ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมได้ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 8 ส.ค.64 ที่ https://bit.ly/webcheckraceOlympic2020

ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมจะได้รับเสื้อพร้อมเหรียญที่ระลึกเป็นของรางวัล ขณะเดียวกันในทุกๆการวิ่ง 1 กม.จะสมทบทุน 1 บาท สนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทยในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ด้วย โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นต่อเนื่อง ไปจนกว่าจะได้ระยะวิ่งครบเป้าหมาย 1 ล้านกม.

พิเศษกับสิทธิพิเศษ 100 DAY TO GO ! 1,000 NAME TO REMEMBER สำหรับ 1,000 คนแรก ที่สมัครซื้อแพ็กเกจ VIRTUAL RUN ตั้งแต่วันนี้ รับสิทธิ์ “สลักชื่อบนเหรียญ” ประวัติศาสตร์ทันที โดยนักวิ่งท่านใดที่สมัครและเคยได้รับเหรียญไปแล้ว เพียงวิ่งสะสมระยะเพิ่มเติมให้ถึง 200 กม. ก็สามารถส่งเหรียญมาให้ฝ่ายจัดกิจกรรมสลักชื่อได้เช่นกัน

สามารถส่งเหรียญรางวัลมาได้ที่ บริษัท เรซอัพ เวิร์ค จำกัด 898/39 ชั้น 23 tower 2 อาคาร sv tower ถ.พระรามสาม แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10120 เบอร์โทรศัพท์ 061-0104669 โดยผู้สมัครที่ส่งเหรียญมาจะมีค่าธรรมเนียมในการจัดส่งเพิ่มเติม 50 บาท และใช้ระยะเวลาในการเลเซอร์ 30 วัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน