บียาร์เรอัล-ปีศาจแดงเจ๊ากันในเวลา 120 นาที ต้องตัดสินด้วยจุดโทษ เป็นฝั่ง “เรือดำน้ำสีเหลือง” ฉมังกว่าชนะไปได้ คว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก สมัยแรกมาครอง
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม “เรือดำน้ำสีเหลือง”บียาร์เรอัล จากสเปน โคจรมาเจอกับ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ เกมนี้เตะกันที่สนามสตาดิโอ เมียสกี เมืองกดังส์ก ของโปแลนด์
- งูใหญ่แถลงแยกทาง อันโตนิโอ คอนเต หลังคว้าแชมป์เซเรีย อา ได้สำเร็จ
- ดัตช์ตัดตัวแข้งเหลือ 26 คนลุยศึกยูโร 2020 สตีเฟน เบิร์กไวน์ โดนหั่นทิ้ง
- คริสตอฟ กัลติเยร์ ลาตำแหน่งกุนซือลีลล์ หลังนำทีมเถลิงแชมป์ลีก เอิง
เกมนี้บียาร์เรอัลจัด การ์ลอส บักกา, เคราร์ด โมเรโน, มานู ตริเกรอส ลงตัวจริง ส่วนแมนฯยูไนเต็ดใช้งาน เอดินสัน คาวานี, มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน แฟร์นานเดส
ครึ่งแรกนาที 29 บียาร์เรอัลได้ฟรีคิกระยะกว่า 40 หลา ดาเนียล ปาเรโฮ เปิดยาวไปหน้าประตู บอลลอยข้ามแนวรับมาถึง เคราร์ด โมเรโน โฉบเข้าจิ้มผ่านมือนายทวารสู่ก้นตาข่าย ทีมดังสเปนจึงออกนำ 1-0
ครึ่งหลังนาที 55 แมนฯยูไนเต็ดเตะมุมไปหน้าประตูแล้วบอลถูกโหม่งสกัดลอยมาหา มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงสวนจากนอกเขตโทษ บอลติดกองหลังมาโดนขา สกอตต์ แม็กโทมิเนย์ แล้วเข้าทางปืน เอดินสัน คาวานี ซัดเข้าไป สกอร์เสมอกัน 1-1
หลังจากนั้นทั้งคู่แทบไม่มีจังหวะลุ้นยิงประตูแบบจะแจ้งมากนัก ทำให้จบ 90 นาที เสมอกันอยู่ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก
ช่วงต่อเวลาพิเศษ รูปเกมยังคงเป็นไปในลักษณะเดิม ทั้งคู่ไม่สามารถสร้างความอันตรายแบบชัดเจนในพื้นที่สุดท้าย จึงไม่มีฝั่งไหนยิงกันเพิ่มได้อีก จบเกม 120 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
ปรากฎว่าแม้แต่ช่วงดวลจุดโทษยังยืดเยื้อ ทุกคนยิงเข้าหมดจนต้องถึงผู้รักษาประตู เคโรนิโม รูยี ของบียาร์เรอัล สังหารเสียบตาข่าย ขณะที่ ดาบิด เด เคอา ของแมนฯยูไนเต็ด ยิงไปติดเซฟ ส่งผลให้บียาร์เรอัลชนะ 11-10
บียาร์เรอัลคว้าแชมป์ถ้วยยุโรปหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร พร้อมขยับโควต้าถ้วยยุโรปฤดูกาลหน้า จากเดิมยูโรปา คอนเฟเรนซ์ ลีก ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก อีกด้วย ส่วนแมนฯยูไนเต็ดได้รองแชมป์หนแรก จากการเข้าชิงชนะเลิศ 2 ครั้ง
