โค้ชหรั่ง ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน รองประธานกรรมาธิการกีฬาวุฒิสภา เชื่อโค้ชชาวไทยตอบโจทย์วิกฤติศรัทธาแฟนบอล เหตุผลงานย่ำแย่ต่อเนื่องนับตั้งแต่ใช้กุนซือต่างชาติ

โค้ชหรั่ง ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือทีมชาติไทย ปัจจุบันรั้งตำแหน่องรองประธานกรรมาธิการกีฬาวุฒิสภา กล่าวถึงผลงาน “ช้างศึก”ทีมชาติไทย ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รองสอง กลุ่มจี ที่เก็บได้เพียง 9 คะแนนจาก 7 นัด ตกรอบแน่นอนแล้ว โดยยังเหลือโปรแกรมนัดสุดท้ายพบมาเลเซีย วันที่ 13 มิ.ย. เวลา 23.45 น. ว่าจำเป็นต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น

“ผลงานของทีมชาติไทยในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก จาก 2 นัดล่าสุดเห็นได้ชัดว่าเราไม่มีทีมเวิร์กเท่าที่ควร แม้ว่าจะมีนักเตะให้โค้ชเลือกใช้งานได้ถึง 42 คน เอาตัวอย่างง่ายๆ แค่เกมกับอินโดนีเซีย ชาติอื่นในอาเซียนเอาชนะอินโดนีเซียได้หมด มีเพียงไทยที่ทำได้แค่เสมอ”

“แน่นอนผลงานที่ผ่านมาเราคงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ดังนั้นการที่จะเรียกศรัทธาจากแฟนบอลกลับมาอย่างแรกที่ต้องทำนั่นคือ อากิระ นิชิโนะ ต้องพาทีมชาติไทยชนะมาเลเซีย ในนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มนี้ให้ได้ เพราะการตกรอบคัดเลือกบอลโลกนั้นแฟนบอลรับไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งถ้าแพ้มาเลเซีย นัดสุดท้ายด้วย จะยิ่งเป็นกระแสให้แฟนบอลโจมตีอย่างหนัก”

“เราต้องชนะมาเลเซียเพื่อศักดิ์ศรีของทีมชาติไทย และหวังว่าจะมีผลดีต่อการเล่นรอบคัดเลือก ฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 ด้วย จากนั้นจะเป็นการตัดสินใจของผู้บริหารสมาคมแล้วว่าจะเลือกใช้งานโค้ชนิชิโนะต่อไปหรือว่าจะเปลี่ยนตัวกุนซือ”

“จบจากฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เรายังเหลือโปรแกรมฟุตบอลในซีเกมส์ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะจัดการแข่งขันได้หรือไม่ ต่อด้วยฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน (เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ) ทั้งสองรายการนี้เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์”

“ที่ผ่านมาเรามีปัญหาในการใช้โค้ชต่างชาติมาตลอดไม่ว่าจะเป็นในยุคของวินฟรีด เชอเฟอร์ มิโลวาน ราเยวัช และตอนนี้ปัญหาเดิมๆ กลับมาภายใต้การทำงานของอากิระ นิชิโนะ และผู้ที่กอบกู้ศรัทธาแฟนบอลกลับมาล้วนแล้วแต่เป็นโค้ชชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นสมัยที่ผมคุมทีมชาติ หรือที่ผ่านมาอย่าง ซิโก้ (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง) สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าโค้ชไทยตอบโจทย์ที่สุด แต่ปัญหาคือโค้ชคนไหนจะพร้อมเข้ารับงานภายใต้การบริหารของสมาคมชุดนี้บ้างเท่านั้นเอง”

“เท่าที่กวาดตามองตอนนี้โค้ชไทยที่มีศักยภาพในการคุมทีมชาติไทยมีไม่กี่คน อย่างเช่น ธชตวัน ศรีปาน หรือ สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ทั้งนี้ต้องอยู่ที่ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลว่าจะเห็นอย่างไร ถ้าจะให้นิชิโนะคุมทีมต่อไปจะต้องมีอะไรเพิ่มเติมบ้าง ผลงานต้องชัดเจนกว่านี้ และสมาคมต้องมีส่วนร่วมในการรับผลงานของโค้ชที่จะตามมาในอนาคตด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน