การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อคืนวันที่ 23 มิถุนายน ที่สนามปุสกัส อารีนา เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี โปรตุเกส ลงสนามพบ ฝรั่งเศส โดยก่อนหน้านี้ โปรตุเกส มี 3 คะแนน ชนะ ฮังการี 3-0 และแพ้ เยอรมนี 2-4 ส่วน ฝรั่งเศส ชนะ เยอรมนี 1-0 และเสมอฮังการี 1-1

เกมนี้ โปรตุเกส ส่งผู้เล่น 11 ตัวจริงประกอบด้วย รุย ปาตริซิโอ, เนลสัน เซเมโด, รูเบน ดิอาส, ราฟาเอล เกร์เรยโร, เปเป, เชา มูตินโญ, ดานิโล เปเรยรา, เรนาโต ซานเชส, คริสเตียโน โรนัลโด, แบร์นาร์โด ซิลวา, ดิโอโก โชตา

ส่วนฝรั่งเศส ส่ง อูโก โยริส, เปรสเนล คิมเปมเบ, ราฟาเอล วาราน, ลูกัส แอร์กน็องเดซ, ฌูลส์ คุนเด, เอ็นโกโล ก็องเต, ปอล ป๊อกบา, โกรองแตง โตลิสโซ, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยาน เอ็มบัปเป, คาริม เบนเซมา ลงสนาม

เริ่มเกมทั้งสองทีมสู้กันสนุกสูสี จนนาที 28 โปรตุเกสได้ฟรีคิกนอกกรอบ เชา มูตินโญ เปิดมากลางประตู อูโก โยริส ออกมาสกัดแต่ไปชกโดนทั้งดาริโล และบอลผู้ตัดสินวิ่่งมาชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนสุดท้าย จะเป็น คริสเตียโน โรนัลโด ที่รับหน้าที่ สังหารเข้าไปไม่พลาด

หลังจากนั้นฝรั่งเศส พยายามบุกมากขึ้นหวังประตูคืน จนช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 45 เนลสัน เซเมโด ไปสกัด เอมบัปเป ล้มในกรอบ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นลูกจุดโทษบ้าง แล้วเป็น คาริม เบนเซมา รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ให้ ฝรั่งเศสตีเสมอ โปรตุเกส 1-1 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียง 2 นาที ฌูลส์ คุนเด จ่ายจากแดนหลังทะลุไปให้ เบนเซมา หลุดกับดักล้ำหน้า เข้าไปยิงเล่นทางเข้าไปให้ ฝรั่งเศส แซงขึ้นนำ 2-1

โปรตุเกสไม่มีทางเลือก ต้องโหมบุกบ้าง จนนาที 59 คริสเตียโน โรนัลโด ออกไปรับบอลทางกราบซ้าย ก่อนเปิดไปโดนมือ ฌูลส์ คุนเด ผู้ตัดสินให้เป็นแฮนด์บอล ชี้จุดโทษให้โปรตุเกส อีกครั้ง ก่อนที่ โรนัลโด คนเดิมจะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ให้ โปรตุเกส ตีเสมอ 2-2 ทั้งยังเป็นประตูที่ 109 ของโรนัลโด ในทีมชาติ ทำสถิติสูงสุดเทียบเท่า อาลี เดอี ดาวยิงอิหร่าน

หลังสกอร์กลับมาเท่ากัน ทั้งสองทีมเล่นกันแบบระวังตัวมากขึ้น นาที 67 ป๊อกบา สบโอกาสยิงไกลหน้ากรอบบอลพุ่งจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ รุย ปาตริซิโอ ยังพุ่งมาปัดออกไปได้

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีม ดึงเกมช้า และถ่ายบอลไปมา ไม่เปิดเกมรุกกันเท่าไหร่จนจบ 90 นาที โปรตุเกส เสมอ ฝรั่งเศส 2-2 โดย ฝรั่งเศส เป็นแชมป์กลุ่ม มี 5 คะแนน ส่วนโปรตุเกส มี 4 คะแนน เข้ารอบเป็น อันดับ 3 ที่ดีที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน