กกท จับมือ คณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (กกมท.) ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือด้านการพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ห้องประชุมชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท ) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือด้านการพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กับ คณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (กกมท.) โดย “บิ๊กกัอง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท และ ศ.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานกรรมการบริหาร กกมท. ร่วมเป็นประธานการลงนาม โดยมี คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการปฎิรูประเทศด้านกีฬา ภายใต้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงานและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และคณะผู้บริหาร ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีการลงนามครั้งนี้

ดร.ก้องศักด ยอดมณี กล่าวว่า การลงนามฯ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายเครือข่ายและความร่วมมือในการพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ ด้วยการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม งานวิจัย บุคลากร การใช้สถานที่ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อเป้าหมายในการพัฒนานักกีฬาให้มีสมรรถนะสูงขึ้น เพิ่มฐานจำนวนนักกีฬาหน้าใหม่ ตลอดจนการพัฒนาและต่อยอดศักยภาพบุคลากรทางการกีฬาให้ได้มาตรฐานระดับสากล โดยเราจะนำความร่วมมือด้านการพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศระหว่างสองหน่วยงาน ในด้านการให้บริการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา การสร้างระบบการจัดการแข่งขันกีฬาและการฝึกซ้อมนักกีฬา เพื่อการเตรียมทีม การจัดการแข่งขัน พัฒนาสู่ความเป็นเลิศ รวมทั้งการให้การสนับสนุนบุคลากร บุคลากรทางการกีฬา ซึ่งจะทำให้มีการพัฒนาวงการกีฬาของชาติในอนาคตต่อไป

“การร่วมมือกันครั้งนี้ถือว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายร้อยตัว เพราะ กกท ไม่ต้องแยกทำงานกับแต่ละมหาวิทยาลัย แต่ได้ทำงานร่วมกับ 126 สถาบัน ภายใต้การบริหารของ กกมท. ซึ่งจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญจะเป็นการแก้ปัญหาด้านการเรียนให้นักกีฬาที่เรียนดีเล่นกีฬาเก่ง ทำให้นิสิตนักศึกษามองเห็นอนาคตในการเล่นกีฬา ที่จะสามารถต่อยอดไปสู่กีฬาเป็นเลิศและกีฬาอาชีพในอนาคตอย่างเป็นระบบ” บิ๊กก้อง กล่าว

ขณะที่ ศ.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ กล่าวว่า กกมท. มีมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาจำนวน 126 สถาบันเป็นสมาชิก รู้สึกยินดีที่ได้มีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านกีฬาเพื่อความเป็นเลิศกับ กกท. ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสององค์กรมีความร่วมมือกันอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปแบบเป็นเฉพาะกิจ ตามความเชี่ยวชาญและทรัพยากรที่แต่ละองค์กรมี เช่น การขอใช้สถานที่ในการจัดแข่งขันกีฬา การทดสอบสมรรถภาพร่างกายที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา การฝึกอบรม ผู้ฝึกสอน กรรมการ ผู้ตัดสิน เป็นต้น เพื่อสร้างให้เกิดประโยชน์ที่ดียิ่งต่อวงการกีฬาของประเทศร่วมกัน ในการขยายฐานการสร้างนักกีฬาหรือบุคลากรกีฬาหน้าใหม่ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะผลักดันให้ประเทศไทยขึ้นเป็นชาติชั้นนำด้านการกีฬาในระดับนานาชาติต่อไป.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน