คอลัมน์ คลุกวงในกับแจ๊กกี้ : ตัดเชือกยูโร นำเสนอเรื่องราวของ 4 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งมีสถิติที่น่าสนใจมากมาย ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกัน
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร2020 ถึงรอบรองชนะเลิศแล้วนะครับ
ตลอดระยะเวลาในการคัดเลือก 2 ปีเต็ม
จากรอบคัดเลือก 55 ทีมในทวีปยุโรป เริ่มปี 2018ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 24 ทีมก็ครึ่งทวีป นั่นแหละครับ
ถึงวันนี้ยูโร 2020 เหลือ 4 ทีมที่จะลุ้นแชมป์ตาม โปรแกรมรอบรองชนะเลิศ 6 ก.ค. อิตาลี-สเปน 02.00 น. และ 7 ก.ค. อังกฤษ-เดนมาร์ก 02.00 น.
ในสี่ทีมนี้มีหนึ่งทีม ที่ยังไม่เคยคว้าแชมป์ยูโร มากสุดคือ สเปน 3 ครั้ง(1964,2008,2012)
ส่วนที่ได้มาแล้วหนึ่งครั้ง คือเดนมาร์ก (1992) และ อิตาลี (1968)
อังกฤษ คือทีมที่ยังไม่เคยได้แชมป์ยูโร
ดีที่สุดคือรอบรองชนะเลิศ ยังไม่เคยเข้าชิงชนะเลิศ แน่นอนครั้งนี้แฟนๆอังกฤษ มีความหวังสูงเลยครับ หลังจากทีมเริ่มเข้าฟอร์มล่าสุด ถล่มยูเครน 4-0 นักเตะในทีมโชว์ฟอร์มกันถ้วนหน้า
แถมแข่งในเวมบลีย์อีก คือความได้เปรียบ
ส่วนความพร้อมก่อนคู่แรก เริ่มที่ อิตาลีลงซ้อม…ครั้งสุดท้ายก่อนเดินทางเข้าอังกฤษในวันจันทร์ สภาพทีมนั้นมีปัญหาในตำแหน่งแบ๊กซ้ายเมื่อ เลโอนาร์โด สปินาสโซลา เจ็บเอ็นร้อยหวาย ต้องพักตลอดการแข่งขัน ทำให้ โรแบร์โต มานชินี โค้ชของทีมต้องเลือก เอเมอร์สัน แบ๊กซ้ายจากทีมเชลซี ลงสนามเล่นแทนวันพรุ่งนี้
ส่วนข่าวดีคือ ตำแหน่งคือแบ๊กขวา อเลสซานโดร ฟลอเรนซี หายเจ็บพร้อมลงสนามได้ ขณะที่คนอื่นๆไม่มีปัญหาสภาพทีมสมบูรณ์ดี
ทางฝั่งสเปน มีรายงานข่าวว่าทีมชาติสเปน ซ้อมการยิงจุดโทษอีก หลังจากใช้ได้ผลในเกมที่พบกับสวิสเซอร์แลนด์ โดยหลุยส์ เอ็นริเก้ โค้ชใหญ่ บอกว่าไม่ประมาท หากเกมต้องเล่นกันจนถึง 120 นาที เหมือนรอบที่ผ่านมา
ทีมสเปนชนะสวิสเซอร์แลนด์ ได้เพราะการยิงจุดโทษ ซึ่งพวกเขาก็ซ้อมก่อนแข่งเช่นกัน
สภาพทีมสเปน ไม่มีปัญหาเรื่องตัวเจ็บเลย นักเตะสมบูรณ์ดี
คู่นี้เขาบอกว่าชิงเหลี่ยมในการแย่งครองบอล ทีมไหนแย่งชิงได้ มีโอกาสชนะ ในเกม คาดกันว่ามีแนวโน้มที่ยืดเยื้อถึง 120 นาที ผู้สันทัดกรณีให้ อิตาลีดีกว่าครับ ส่วนของจริงลุ้นวันอังคารนี้ ครับ
คอลัมน์ คลุกวงในกับแจ๊กกี้
