พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเบอร์ 1 ของโลก รุ่น 49 กก. เกมแรกลงดวลรอบ 16 คนสุดท้าย โดยจะเจอ นักเทควันโดสาวจากอิสราเอล หรือสาวเปอร์โตริโก้เปิดโปรแกรมเทควันโด โอลิมปิกเกมส์ 2020
ความเคลื่อนไหวการเก็บตัวฝึกซ้อมของ 2 นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทั้ง “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก. และ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดหนุ่ม รุ่น 58 กก. ซึ่งจอมเตะทั้ง 2 คน พร้อมด้วยสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย ได้เข้าพักที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เพื่อรอเดินทางไปร่วมการแข่งขัน โตเกียวเกมส์ ในวันที่ 17 ก.ค.64 โดยมี “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
“บิ๊กเอ” นายกเทควันโด ได้กล่าวว่า มาถึงวันนี้ เรามีความพร้อมทุกอย่างเพื่อลงสนามแข่งขันแล้ว โดยตอนนี้ เราได้ทราบคู่สายการแข่งขันของ พาณิภัค และ รามณรงค์ ซึ่งในรุ่น 49 กก.หญิง เทนนิส ในโอลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ เจ้าภาพญี่ปุ่น ได้ให้โควต้าไวลด์การ์ดนักกีฬาในรุ่นนี้ถึง 2 คน คือ เยเวตตี้ ฮุยหัว จากแคนาดา มืออันดับ 11 ของโลก และ ไดน่า เพอร์ยูเนส มืออันดับ 16 ของโลกจาเนเธอร์แลนด์ ทำให้รุ่น 49 กก.หญิง มีนักกีฬาทั้งหมด 17 คน ซึ่งจะมีคู่แข่งขันก่อนรอบ 16 คนสุดท้ายก่อน 1 คู่ ซึ่งการจัดอันดับตามแร็งกิ้งโลก ถึงแม้จะเลือกเอาไวลด์การ์ดเข้ามา 2 คน แต่โปรแกรมการวางคู่สายการแข่งขันจะคัดตามอันดับโลกซึ่งจัดเรียงให้เป็นมือวางอันดับ 1-17
โดย พาณิภัค มืออันดับ 1 ของโลก จะอยู่สายบน ร่วมกับ มิยุ ยามาด่ะ เจ้าภาพ ญี่ปุ่น มือวางอันดับ 4, ซิม จี ยอง จากเกาหลีใต้ อันดับ 5, ทรอง ทิ คิม ทูเยน จากเวียดนาม อันดับ 8,เยเวตตี้ (แคนาดา) มือวางอันดับ 9, อูไมมา เอลบุชตี้ (โมร็อคโก) อันดับ 12, ซู โป ยา (ไทเป) อันดับ 13, อวิชชาง แซมเบิร์ก (อิสราเอล) อันดับ 16 และ วิคตอเรีย สแตมบวก (เปอร์โตริโก้) อันดับ 17 ซึ่งในรอบก่อน 16 คน จะเป็นการเจอกันระหว่าง อิสราเอล กับ เปอร์โตรีโก้ โดยใครชนะจะได้เจอกับ พาณิภัค ในรอบ 16 คนสุดท้าย ส่วนในรอบ 8 คน จะเข้าไปเจอระหว่าง แคนานดา กับ เวียดนาม ซึ่งถ้าชนะจะเข้ารอบตัดเชือก มีโอกาสเจอ ไทเป หรือ เกาหลีใต้ โดยตนยังเชื่อมั่นว่า ในรุ่นนี้เราจะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้อย่างแน่นอน
นายกสมาคมกีฬาเทควันโดฯ ยังกล่าวต่ออีกว่า ส่วนในรุ่น 58 กก.ชาย ของรามณรงค์ ยอมรับว่า หนักมากพอสมควร เพราะเราต้องเจอกับคู่แข่งที่สูงยาวแทบทั้งสิ้น โดยไทยถูกจัดให้อยู่สายร่าง เกมแรกรอบ 16 คนสุดท้าย เจอกับ ซาฟวาน เคลล์ จากออสเตรเลีย ถ้าเอาชนะได้ รอบ 8 คน ต้องเจอกับผู้ชนะระหว่าง เจฟเฟอร์สัน โอเชา จากโคลัมเบีย หรือ วิคตอ เดลล์ อคิวล่า จากอิตาลี มืออันดับ 2 ของโลก และถ้าเกิดชนะได้อีก มีโอกาสไปเจอ อาร์มิน ฮาดิเปอร์ มือ 4 ของโลกจากอิหร่าน ซึ่ง จูเนียร์ ยังไม่เคยเอาชนะได้เลยเจอกันมา 7 ครั้ง แต่ตนยังเชื่อมั่นในความสามารถของ รามณรงค์ ถ้าเล่นได้ท็อปฟอร์มอาจสร้างเซอร์ไพร์ให้คนไทยมีความสุข
ด้าน”โค้ชแม็ก”ชัชวาล ขาวละออ อดีตจอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ในรุ่น 58 กก.ชาย ซึ่งเป็น 1 ใน สต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย ได้เปิดเผยว่า ดูจากสายการแข่งขันแล้ว ตนยังเชื่อมั่นว่านักเทควันโดไทย จะคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ โดยเฉพาะในรุ่น 49 กก.หญิง ซึ่งรอบแรก เทนนิส มีโอกาสเจอกับ อวิชชาง แซมเบิร์ก จาก อิสราเอล ซึ่งน่าจะชนะแคนานดามาได้ในรอบก่อน 16 คนสุดท้าย ซึ่งนักกีฬาจากอิสราเอล จะเน้นรอเตะจังหวะ 2 ถึงแม้ เทนนิส จะไม่เคยเจอกันมา แต่ไม่มีปัญหาแน่นอน ส่วนรอบ 8 คน ระหว่าง แคนาดา กับ เวียดนาม ซึ่งเราเคยเอาชนะมาได้ทั้งหมดก็ไม่น่าพลาด โดยทีมโค้ชเราวิเคราะห์กันว่า น่าจเข้าไปตัดเชือกกับ เกาหลีใต้ หรือไทเป ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็น ซู โป ยา จากไทเป เพราะอาจจะเฉือนชนะเกาหลีใต้มาได้ และเรายังเชื่อมั่นว่า พาณิภัค จะก้าวไปคว้าเหรียญทอง
ส่วนรุ่น 58 กก.ของ จูเนียร์ ยอมรับว่าหนักตั้งแต่รอบแรก ที่ต้องเจอกับ ซาฟวาน เคลล์ จากออสเตรเลีย ซึ่งเราเคยแพ้มาในรายการ เบลเยี่ยมโอเพ่น ต้องยอมรับว่า จูเนียร์ เสียเปลี่ยนด้านรูปร่างที่เขาสูงยาวกว่ามาก เพราะฉะนั้น เราต้องเอาความไว เตะระยะสั้น เข้าให้ถึงตัว ตัดโอกาสไม่ให้เขาใช้ขาหน้าได้ ถ้าทำได้ก็ชนะ ส่วนรอบ 8 คน อาจต้องเจอ วิคตอ เดลล์ อคิวล่า จากอิตาลี ซึ่งเป็นเพื่อนกับตนเล่นมานาน ตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ 2008 อายุ 30 กว่า ประสบการณ์สูง ถ้าชนะได้ก็ต้องใช้ความเร็ว คล่องตัวของ จูเนียร์ และประชิดตัวเตะเท่านั้นถึงจะสู้ได้ โอกาสเรามีขอให้เล่นได้ท็อปฟอร์มและตามแผนที่วางไว้
