พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดสาว เดินทางไปญี่ปุ่นแล้ว คุณพ่อ ยอมรับว่าลูกสาวกดดันมากๆ เพราะต้องแบกความคาดหวังของคนไทย ในการคว้าเหรียญทอง โอลิมปิก

“น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดสาววัย 23 ปีทีมชาติไทย เป็นความหวังสูงสุดของทัพนักกีฬาไทยในการคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 “โตเกียวเกมส์” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคม

โดย “น้องเทนนิส” มีโปรแกรมลงแข่งขันวันที่ 24 กรกฎาคม ตั้งแต่ช่วงเช้าของเมืองไทย ซึ่งหากน้องเทนนิส ทำได้ตามเป้าหมายจะทะลุเข้าไปชิงเหรียญทองในเวลาประมาณ 19.30 น. ของเมืองไทย
นายสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ บิดาของ ”น้องเทนนิส” เปิดเผยว่า ไม่ได้เดินทางไปเชียร์ลูกสาวที่ขอบสนามแข่งขันเหมือนทุกครั้งเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” แต่ได้ไปส่งลูกสาวเดินทางไปเมื่อวันก่อน สำหรับโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ของ “น้องเทนนิส” นั้น ทั้งตน และลูกสาว ยอมรับว่ากดดันมากๆ เพราะต้องแบกความคาดหวังของคนไทยทั้งประเทศในการคว้าเหรียญทองให้กับทัพนักกีฬาไทย ซึ่งลูกสาวรู้ดีว่า เขาเป็นตัวเต็งความหวังสูงสุด จึงไม่อยากทำพลาด ที่ผ่านมาก็พยายามบอกให้ลูกสาวทำใจให้สบายอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเพราะเป็นเรื่องของผลการแข่งขันกีฬา ก่อนออกเดินทางไปลูกสาวมีอาการเครียดอย่างชัดเจน

‘สุราษฎร์ฯ’ตั้งจอยักษ์ที่สะพานนริศ

นายสิริชัยกล่าวต่อว่า วันแข่งขันของลูกสาวในวันที่ 24 กรกฎาคม ตนไม่ได้ไปร่วมเชียร์กับญาติพี่น้องที่บ้านเกิด จ.สุราษฎร์ธานี แต่จะเชียร์อยู่ที่พักที่กรุงเทพมหานคร เพราะเราอยู่พื้นที่สีแดงจึงกลับไปลำบากในเวลานี้ อย่างไรก็ตามใน จ.สุราษฎร์ธานี ทางเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดตั้งจอมอนิเตอร์ยักษ์บริเวณสะพานนริศ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกับจัดกิจกรรมเชียร์ให้ประชาชนได้มาร่วมเชียร์น้องเทนนิสคว้าเหรียญทองกลับมาฝากคนไทยให้ได้โดยจัดภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19” ซึ่งในวันงาน 24 กรกฎาคม จะมีพวกญาติพี่น้องไปรวมตัวกันส่งแรงใจเชียร์น้องเทนนิสที่นั่นด้วย โดยหลังจากลูกสาวแข่งขันจบในวันที่ 24 กรกฎาคม วันรุ่งขึ้น 25 กรกฎาคม น้องเทนนิส จะเดินทางกลับเมืองไทยทันที โดยไฟล์ทบินจะกลับถึงเมืองไทยเช้าวันที่ 26 กรกฎาคม เวลา 09.00 น. ไปลงที่ จ.ภูเก็ต เพื่อเข้าโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ของรัฐบาล โดยทางนักเทควันโดเยาวชนของ จ.ภูเก็ต เตรียมการไปต้อนรับไว้เรียบร้อยแล้ว

พ่อฟันธง’พาณิภัค’ชิง’หวู จิง หยู’

พ่อของ พาณิภัค กล่าวต่อไปอีกว่า สภาพร่างกายของน้องเทนนิสเทียบกับเมื่อ 4 ปีก่อนที่คว้าเหรียญทองแดง โอลิมปิก 2016 ถือว่า ฟิตกว่าเดิมมาก พร้อมทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ คู่แข่งในคราวนี้ยังคงเป็น หวู จิง หยู จอมเตะจากจีน ที่เคยเจอกันมา 4 ครั้ง ครั้งที่ 1-2 น้องเทนนิสแพ้ไป แต่การเจอกัน 2 ครั้งหลัง “น้องเทนนิส” เอาชนะแบบขาดลอย ซึ่งจริงๆ แล้ว หวู จิง หยู ต้องกลัวน้องเทนนิสในครั้งนี้อย่างมาก โดยการฝึกซ้อมที่ผ่านมา เราเตรียมแผนที่จะรับมือ หวู จิง หยู ไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทำให้มั่นใจว่าลูกสาวจะทำได้สานฝันของตัวเองได้สำเร็จ ซึ่งเชื่อว่า ลูกสาวจะไปเจอกับ หวู จิง หยู ในรอบชิงชนะเลิศ

“น้องเทนนิสไม่ได้บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรเป็นพิเศษในการไปล่าเหรียญทองในครั้งนี้ แต่ที่ผ่านมาทั้งผม และลูกสาวไปไหนก็จะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตให้สามารถคว้าเหรียญทองครั้งนี้ให้สำเร็จ อยากฝากแฟนกีฬาชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้ลูกสาวทำสำเร็จ ผมเห็นถึงความตั้งใจมุ่งมั่นของลูกสาวแล้วผมเชื่อว่าเขาทำได้” พ่อน้องเทนนิสกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน