สื่อสเปน รายงาน บาร์เซโลนา ดำเนินการขัดขวางไม่ให้ ลิโอเนล เมสซี ย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เนื่องจากผิดกฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์
เมสซี ย้ายออกจาก บาร์เซโลนา อย่างเป็นทางการหลังค้าแข้งในถิ่น คัมป์ นู มานานกว่า 21 ปีเนื่องจากไม่สามารถต่อสัญญาฉบับใหม่ได้ เพราะปัญหาข้อจำกัดด้านการเงินที่ ลาลีกา สเปน กำหนดไว้
- ลิโอเนล เมสซี น้ำตานองแถลงลาบาร์ซ่า – รับมีโอกาสย้ายซบเปแอสเช
- เปแอสเช จ่อคว้า ลิโอเนล เมสซี ร่วมทีมสัญญา 2 ปี – เนย์มาร์ ช่วยผลักดันดีล
- เปแอสเช เดินหน้าทาบ ลิโอเนล เมสซี ร่วมทัพหลังย้ายออกจาก บาร์เซโลนา
โดยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. แข้งวัย 34 ปีได้แถลงอำลา บาร์เซโลนา เป็นที่เรียบร้อยซึ่งในงานแถลงข่าวดังกล่าว เมสซี ได้เผยว่ามีความเป็นไปได้ที่เจ้าตัวจะย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทว่ายังไม่มีการตกลงกันเป็นทางการแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม “มาร์กา” สื่อแดนกระทิงดุ เปิดเผยว่า บาร์เซโลนา พร้อมขวางไม่ให้ เปแอสเช คว้าตัว เมสซี ไปเสริมทัพ โดยอ้างว่าสถานการณ์เกี่ยวกับกฎการเงิน หรือ ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ ของทีมดังฝรั่งเศสนั้นว่าแย่กว่าทีมของตนเสียอีก และเตรียมยื่นเรื่องนี้ไปให้คณะกรรมาธิการยุโรปพิจารณา
โดย ฆวน บรังโก แถลงในนามบริษัทที่รับหน้าที่เป็นทีมกฎหมายของ บาร์ซ่า ในเรื่องนี้ว่า “อัตราส่วนของ เปแอสเช เกี่ยวกับ ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ นั่นแย่กว่า บาร์เซโลนา อีก ในปี 2019-20 รายได้ 99 เปอร์เซ็นต์ของ เปแอสเช ถูกใช้เป็นเงินค่าเหนื่อย ในขณะที่ของ บาร์เซโลนา อยู่ที่ 54 เปอร์เซ็นต์ และบริษัทของผมได้เตรียมการร้องเรียนไปที่คณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อไม่ให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เซ็นสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี”
ทั้งนี้คาดว่า เมสซี จะได้รับค่าเหนื่อยหากย้ายไปอยู่กับ เปแอสเช ถึงปีละ 40 ล้านยูโร (ราว 1.54 พันล้านบาท) ซึ่งมากที่สุดในสโมสร