ธีราทร เผยพอใจกับผลงานหลังได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริง ในเกมที่โยโกฮามา เอฟ มารินอส บุกไปแบ่งแต้มชิมิสึ เอส-พัลส์ 2-2 แต่ยอมรับยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง

ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายชาวไทยจากโยโกฮามา เอฟ มารินอส ออกมาเปิดใจหลังเกมที่ช่วยทีมต้นสังกัดออกไปเสมอกับชิมิสุ เอส-พัลส์ 2-2 ในเกมเจลีก ญี่ปุ่น เมื่อ 9 ส.ค. โดยเกมดังกล่าว “โก๋อุ้ม” มีชื่อออกสตาร์ตเป็น 11 ตัวจริงเป็นนัดแรกในยุคของ เควิน มัสแคต กุนซือคนใหม่ชาวออสเตรเลีย ที่เข้ามาสานงานต่อจากอังเก ปอสเตโคกลู ที่ย้ายออกไป

ซึ่งผลงานของ “โก๋อุ้ม” ในเกมนี้มีส่วนกับประตูตีเสมอ 1-1 ของมารินอส จากจังหวะที่ขยับหุบไปยืนด้านในก่อนเปิดบอลยาวข้ามฝากมาให้ เทรุฮิโตะ นาคางาวะ ที่วิ่งมาทางฝั่งซ้ายตัดเข้าในกรอบก่อนตวัดต่อเข้ากลางไปให้ มาร์กอส จูเนียร์ วิ่งมาซัดเข้าไปในนาที 39

จบเกมโยกฮามา เอฟ มารินอส เสมอ ชิมิสุ เอส-พัลส์ 2-2 ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 50 แต้ม จาก 22 นัด รั้งรองจ่าฝูงของตารางเช่นเดิม ตามหลังคาวาซากิ ฟรอนตาเล ทีมแชมป์เก่าและจ่าฝูง 11 แต้ม มารินอส ยังมีลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดประเทศญี่ปุ่น อีกสมัย เนื่องจากมีโปรแกรมแข่งน้อยกว่าจ่าฝูงอยู่ 1 นัด และยังเหลือโปรแกรมแข่งอีกถึง 26 นัดสำหรับฤดูกาล 2021

หลังเกม ธีราทรเผยว่า “วันนี้รู้สึกเสียดายที่เราไม่สามารถเก็บ 3 แต้มได้ หลังจากที่ผมเพิ่งจะได้ลงเล่นในรอบหลายเกม ยังมีความผิดพลาดของจังหวะการเล่นกับเพื่อนอยู่บ้าง แต่ผมจะทำให้ดีที่สุดเหมือนที่เคยเล่นกับเพื่อนได้”

“จังหวะที่ได้ประตูตีเสมอ 1-1 เป็นจังหวะและสไตล์ของแบ๊กมารินอสอยู่แล้วที่จะต้องหุบเข้ามาข้างใน ซึ่งในจังหวะนั้นผมเห็นว่าเพื่อนกำลังจะวิ่งตัดหลังแบ๊กทีมคู่แข่งพอดีเลยโยนไป ดีใจที่ได้ประตู แต่ยังมีอีกหลายๆ จังหวะที่ต้องปรับแก้ไขต่อไป”

“ส่วนความแตกต่างสไตล์การเล่นของบอสเควิน โค้ชคนใหม่ ผมคิดว่าเราไม่ได้มีจุดเปลี่ยนแปลงอะไรมาก เราพยายามรักษาในระบบการเล่นของบอสอังเก ที่ได้ทำมาอยู่แล้ว ไม่ว่าก่อนหน้านี้หรือตอนนี้ ทำให้ผมรู้สึกทึ่งเหมือนกันว่าเรายังคงเล่นตามสไตล์ของมารินอสได้อยู่”








Advertisement

“เกมนี้ไม่ใช่ว่าเราเล่นกันไม่ดี ถือว่าเราทำกันได้ดีแล้ว แต่ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง ซึ่งถ้าเราเล่นแบบนี้เก็บจุดแข็งของทีมไว้ เชื่อว่าเกมต่อไปเราสามารถสู้กับทุกทีมได้”

สำหรับโปรแกรมแข่งนัดต่อไปของโยโกฮามา เอฟ มารินอส จะเปิดบ้านพบกับโออิตะ ทรินิตะ (อันดับ 19) ในวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค. เวลา 16.00 น. (เวลาไทย) ที่เอ็นเอชเค สปริง มิตสึซาวะ สเตเดียม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน