โจน ลาปอร์ตา ประธานสโมสร บาร์เซโลนา เผยขณะนี้ทีมมีหนี้รวมอยู่ถึง 1,350 ล้านยูโร แต่เชื่อว่าจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ในระยะเวลาปีครึ่ง
สำหรับ บาร์เซโลนา ประสบปัญหาด้านการเงินมาตั้งแต่ยุคของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรคนก่อนด้วยหนี้สะสม 1,170 ล้านยูโร (ราว 46,013 ล้านบาท) สืบเนื่องมาจากการซื้อขายนักเตะ, การเผชิญวิกฤตโควิด-19 รวมถึงค่าเหนื่อยนักเตะที่คิดเป็น 103% ของรายรับทั้งหมดซึ่งส่งผลให้ทีมไม่สามารถขยายสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ได้ในที่สุด
- บาร์ซ่าเริ่มยุคไร้เมสซี ประเดิมซีซั่นลา ลีกา คว้าชัยเหนือโซเซียดัด
- บาร์เซโลนาอยากปล่อยยืม ฟิลิปเป คูตินโญ หวังลดภาระค่าเหนื่อยครึ่งหนึ่ง
- บาร์ซ่าเมินคำขอร้องเสริมทัพ โรนัลด์ คูมัน เหตุการเงินยังวิกฤต
กระทั่งล่าสุด ลาปอร์ตา เปิดเผยว่าขณะนี้ “เจ้าบุญทุ่ม” มีหนี้สะสมทั้งหมดมากกว่า 1,350 ล้านยูโร (ราว 53,093 ล้านบาท) ในขณะนี้ โดยเฉพาะปีที่แล้วที่ติดลบไปกว่า 451 ล้านยูโร (ราว 17,435 ล้านบาท) “สิ่งแรกที่เราต้องทำเมื่อมาถึงคือการขอเงินกู้ 80 ล้านยูโร (ราว 3,092 ล้านบาท) เพราะไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถจ่ายเงินเดือนนักเตะได้ และการบริหารงานก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยการโกหก”
นอกจากนั้นเรายังพบว่ามีการจ่ายเงินให้กับคนกลางอย่างไม่สมส่วน ไม่ใช่แม้แต่ตัวแทน บาร์เซโลน่ามีมูลค่าสุทธิติดลบ 451 ล้านยูโร ซึ่งเป็นสิ่งตกทอดที่แย่มาก และเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก”
อย่างไรก็ตาม ลาปอร์ตา ระบุว่าในอีกปีครึ่งทีมจะสามารถพลิกสถานการณ์ทางการเงินได้จากข้อเสนอของกลุ่มทุนต่างๆที่จะให้การสนับสนุน “ผมคิดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สโมสรจะมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น”