สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เผยว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือทีมที่ใช้งบเสริมทัพมากที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่ใน 30 อันดับแรกมีทีมจากอังกฤษติดโผถึง 12 ทีม
โดย ฟีฟ่า ได้มีการเปิดเผยรายงานการซื้อขายของนักเตะของสโมสรทั่วโลกในรอบทศวรรษที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2011-2020
- อยู่ยาว รูเบน ดิอาส ขยายสัญญากับ แมนฯซิตี้ ถึงปี 2027
- เรือใบดุซัลโวไม่เลี้ยง ปืนใหญ่ยังไร้แต้ม-ประตู หล่นสู่บ๊วย พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว
- เป๊ป แย้ม แมนฯซิตี้ ไม่เซ็นกองหน้าใหม่เพิ่มในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้
ผลปรากฎว่าทีมที่ใช้เงินในการเสริมทัพมากที่สุด นั่นก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นล่าสุด หลังดึงตัวนักเตะใหม่มาถึง 130 คน แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นจำนวนเงินเท่าใด ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ เชลซี จากอังกฤษ ตามด้วย บาร์เซโลนา จากสเปน ที่อยู่ในอันดับ 3 ขณะที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และเรอัล มาดริด ติดโผมาอยู่ในอันดับ 4 และ5 ตามลำดับ
Manchester City’s Ferran Torres celebrates after scoring his side’s fifth goal during the English Premier League soccer match between Manchester City and Arsenal at Etihad stadium in Manchester, England, Saturday, Aug. 28, 2021. (AP Photo/Rui Vieira)
นอกจากนั้นมีรายงานเพิ่มเติมว่า 12 ทีมจากพรีเมียร์ลีก ประกอบด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์, ลิเวอร์พูล, เลสเตอร์ ซิตี้, เซาแฮมป์ตัน, วูล์ฟแฮมป์ตัน, เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อยู่ใน 30 อันดับแรกของสโมสรที่ใช้เงินเสริมทัพมากที่สุดในรอบทศวรรษดังกล่าว
ขณะที่ยอดรวมของการเสริมทัพระหว่างปี 2011-2020 จากทุกสโมสรทั่วโลก ฟีฟ่า ระบุว่า อยู่ที่ตัวเลข 3,530 ล้านปอนด์ (ราว 1.57 แสนล้านบาท) และมีการจ่ายค่าเอเยนต์นักเตะรวมถึง 465 ล้านปอนด์ (ราว 2.02 หมื่นล้านบาท)
ด้าน เนย์มาร์ คือนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา หลังย้ายจาก บาร์เซโลนา ไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยค่าตัว 198 ล้านปอนด์ (ราว 8.63 พันล้านบาท)
