อชิตพล คีรีรัมย์ เด็กไทยยุคใหม่ ได้ไปเล่นบอลลีกระดับโลก ถึงเมืองเบียร์ หลังเซ็นสัญญากับ สโมสร เอาก์สบวาร์ก ในบุนเดสลีก้า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 “เจ้าไมค์” อชิตพล คีรีรมย์ ศูนย์หน้า “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ย้ายจาก ทีเอสวี โรเซนไฮม์ ทีมในศึก บุนเดนสลีก้า 4 เยอรมนี ไปร่วมทีมดัง เอาก์สบวร์ก ในฟุตบอลบุนเดสลีก้า ลีกสูงสุดของประเทศเยอรมนี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายหลังจากที่ผ่านการทดสอบฝีเท้า ซึ่งเป็นที่น่าพอใจสำหรับทีมสต๊าฟโค้ชของสโมสรแห่งใหม่

อย่างไรก็ตาม อชิตพล คีรีรมย์ จะยังไม่ได้ก้าวขึ้นสู่ทีมใหญ่ของ เอาก์สบวร์ก ในการวาดลวดลายโชว์เพลงแข้งในศึกบุนเดสลีก้า เยอรมนี ในทันที แต่ทว่า เจ้าตัวยังต้องปรับความคุ้นเคยให้ชินกับทีมเอาก์สบวร์ก 2 ในเรกิโอนาลลีก้า เสียก่อน ถ้าหากผลงานเป็นที่น่าพอใจก็จะได้เลื่อนขั้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ต่อไป

ทั้งนี้ ตามประวัติ อชิตพล เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังที่ประเทศเยอรมนี ด้วยการเข้าสู่ระบบ อคาเดมีของ ทีเอสวี โรเซนไฮม์ ก่อนขยับขึ้นไปเล่นในทีมชุด รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จนถึงทีมชุดใหญ่ ก่อนยกระดับไปอีกขั้นด้วยการย้ายไปร่วมทีม เอาก์สบวร์ก ในครั้งนี้ ส่วนในนาม “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ตัวเขาเคยติดทีมชาติไทยชุด 18 ปี ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2019 และชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบคัดเลือก มาแล้ว

อชิตพล คีรีรมย์ เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2544 ที่เมืองไทย และเคยศึกษาอยู่ที่ โรงเรียอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ ติดทีมชาตืไทยชุดอายุไม่เกิน 14 ปี และในปี 2015 ไมค์ ได้เล่นในทัวร์นาเมนต์ AFC U-14 Regional Festival of Football 2015 ที่ บรูไน ระหว่างนั้น ไมค์ยังเรียนอยู่ที่กรุงเทพ ก่อนที่จะย้ายไปเล่นที่ประเทศเยอรมัน ในช่วงประมาณปี 2016 ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าในช่วงสมัยอายุ 12 ปี ได้มีโอกาสไปฝึกซ้อมฟุตบอลครั้งแรกในต่างประเทศ ซึ่งก็คือประเทศโปรตุเกส กับสโมสรสปอร์ติ้ง ลิสบอล, เบนฟิก้า และบราก้า

ในขณะที่ฝึกซ้อมกับเบนฟิก้านั้น ได้มีนักเตะจากต่างชาติมากมายได้เข้าร่วมฝึกซ้อม และทำให้ตนได้มีเวลาเข้าแคมป์ประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าตัวก็สามารถทำผลงานได้ดี จนคว้านักเตะยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ไปได้ หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปฝึกซ้อมกับ สโมสรบราก้าในชุด u13
โดยที่เจ้าตัวเองสามารถปรับตัวเข้ากับทีมได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งโค้ชบราก้าได้ชวนให้เขาได้เข้าร่วมทีม แต่ก็ติดปัญหาที่ว่าอายุของเขายังน้อยอยู่ การที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวนั้นอาจจะค่อนข้างลำบาก อีกท้งยังจะมีปัญหาในเรื่องของวีซ่าอาศัยอยู่ในโปรตุเกส ส่งผลให้ต้องพลาดการเซ็นสัญญาครั้งนี้ไป และนั่นคือจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจที่จะมุ่งมั่นสู่การค้าแข้งที่ยุโรป

อชิตพล เดินทางไปเรียนที่เยอรมันในช่วงอายุ 14 ปี ซึ่งเหตุผลที่เขาได้เดินทางไปนั้นก็เพื่อที่จะไปศึกษาต่อพร้อมกับเตะฟุตบอลไปด้วย โดยโรงเรียนที่เขาเรียนนั้นมีชื่อว่า DFI ชื่อเต็มๆ ก็คือ Deutsches Fussball Internat ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เน้นในด้านกีฬา และหลายคนที่เรียนจบจากที่นี่มักจะไปเป็นนักกีฬาในทีมสโมสรต่อ

และสาเหตุที่ได้เข้าไปอยู่ในทีม โรเซนไฮม์ ก็เนื่องจากทางโรงเรียนได้เป็นพันธมิตรกัน ซึ่งในละแวกโรงเรียนก็มักจะมีสโมสรอยู่ใกล้ ๆ ทำให้ดึงนักเตะเข้าไปอยู่ในทีมได้ง่าย ซึ่งในตอนแรกก็จะเข้าไปอยู่ในทีมเยาวชน u-19 จึงทำให้ได้เล่นในลีกเยาวชนก่อน และมาปีนี้ทางสโมสรก็จะดันให้ขึ้นมาอยู่ในชุดใหญ่ โดยที่ผลงานที่เล่นในลีกเยาวชนนั้น ไมค์ได้สร้างผลงานที่ว่าทำประตูได้มากกว่าจำนวนนัดที่ลงเสียอีก โดยที่ลงไป 23 นัด แต่สามารถทำประตูได้ถึง 25 ประตูเลยทีเดียว ถือได้ว่าเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลีกเลยก็ว่าได้

เนื่องจากระดับของลีกจะมีการแบ่งเป็นโซน ๆ เหมือนกับชุดใหญ่ และทีมที่ไมค์อยู่ก็จะเป็นระดับดิวิชั่น 2 ของเรจินัล ซุด ในรุ่น u-19 ซึ่งในขณะนั้นก็ได้เจอกับ ทีมบาเยิร์น โวล์ฟสบวร์ก อยู่เหมือนกัน หลังจากนั้นก็ได้ขึ้นมาเล่นในระดับซีเนียร์ โดยที่ในช่วงแรก ๆ ยังไม่ค่อยได้ลงเล่น เป็นช่วงที่ต้องปรับตัวเพราะจากเยาวชนก็มาเจอกับผู้ใหญ่เลย แต่หลัง ๆ มาก็ได้ลงเล่น ซึ่งลงไป 4 นัดทำประตูได้ 2 ประตู ซึ่งปัจจุบันนี้ทางไมค์ไม่ได้มีสัญญากับทีมใด ๆ แล้ว

เนื่องจากอายุครบ 18 ปี หากจะเซ็นสัญญาจะต้องเซ็นสัญญาอาชีพแล้ว โดยที่ อุนเตอร์ฮัคกิ้ง ในลีกา 3 ได้ทำการติดต่อเข้ามา แต่พอดีมาติดสถานการณ์ช่วงโควิซะก่อนจึงทำให้ยังไม่ได้เซ็นสัญญา และไม่ได้มีเพียงทีมเดียวที่ติดต่อเข้ามา มีทีมอื่น ๆ หลายทีมแต่หากจะถามถึงความชัดเจน อุนเตอร์ฮัคกิ้ง มีความชัดเจนมากกว่า ซึ่งทางโรเซนไฮม์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรในการที่จะย้ายเข้าไปอยู่กับ อุนเตอร์ฮัคกิ้ง เนื่องจากว่านักเตะโรเซนไฮม์หลาย ๆ คนก็ได้ย้ายไปเล่นที่นี่ทุก ๆ ปีอยู่แล้ว เพราะเป็นสโมสรที่อยู่ใกล้ ๆ อยู่แล้ว

จนกระทั่งล่าสุด เจ้าตัวได้รับการติดต่อ เจรจา และเซ็นสัญญา ร่วมกับ สโมสรเอาส์บวร์ก ในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน